posttoday
บทสรุป Q1 สู่หุ้นไทย Q2/68 พายุเศรษฐกิจถล่ม หรือ ซ่อนโอกาส ?

บทสรุป Q1 สู่หุ้นไทย Q2/68 พายุเศรษฐกิจถล่ม หรือ ซ่อนโอกาส ?

02 เมษายน 2568

ปิดฉาก "หุ้นไทย" ไตรมาส 1/68 ทิ้งคำถามใหญ่ "ไตรมาส 2/68" ฟื้นตัวหรือเจอมรสุมลูกใหม่ ? ปัจจัยเศรษฐกิจโลก ทิศทางดอกเบี้ย บวกแรงซื้อขายต่างชาติกำหนดชะตาอย่างไร

KEY

POINTS

  • ปิดฉาก "หุ้นไทย" ไตรมาส 1/68 ทิ้งคำถามใหญ่ "ไตรมาส 2/68" ฟื้นตัวหรือเจอมรสุมลูกใหม่ ?
  • ปัจจัยเศรษฐกิจโลก ทิศทางดอกเบี้ย บวกแรงซื้อขายต่างชาติกำหนดชะตาอย่างไร

ปิดฉากอย่างเร้าใจ!!

ส่งท้ายเดือน มีนาคม 2568 และปิดจบไตรมาส 1/2568 อย่างเต็มรูปแบบ หุ้นไทยนับตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงปัจจุบัน (YTD) ดัชนีร่วง -242.12 จุด คิดเป็น -17.29% โดยดัชนีหุ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 1,390.88 จุดในวันที่ 7 ม.ค.68 และปิดต่ำสุด 1,158.09 จุดในวันที่ 31 มี.ค.68 

ตลอด 62 วันที่ผ่านมา มูลค่าซื้อขายรวม 2,617,915.07 ล้านบาท เฉลี่ย 42,224.44 ล้านบาท พีคสุด 74,536.25 ล้านบาทในวันที่ 28 ก.พ.68 สอดรับข่าวคลังถกแบงก์ชาติ-สภาพัฒน์หามาตรการฟื้นเศรษฐกิจ ขณะที่ลดลงต่ำสุดที่ 17,321.58 ล้านบาทในวันที่ 28 มี.ค.68 เพราะตลาดหลักทรัพย์ฯหยุดเทรดในช่วงบ่ายจากเหตุแผ่นดินไหวเมียนมาเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างชัดเจนในไทย

ความเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทย วันที่ 1 เมษายน 2568 ปิดที่ 1,168.02 จุด เพิ่มขึ้น 9.93 จุด คิดเป็น +0.86% มูลค่าการซื้อขาย 26,436.36 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,174.22 จุด และลดลงต่ำสุด 1,165.33 จุด    

ในปี 2567 ที่ผ่านมา หุ้นไทยร่วงต่ำ ดัชนีปิดที่ 1,400.21 จุด ลดลง -15.64 จุด คิดเป็น -1.10% โดยขึ้นไปแตะสูงสุด 1,495.02 จุดในวันที่ 17 ต.ค.67 และปิดต่ำสุดที่ 1,274.01 จุดในวันที่ 6 ส.ค.67 ตลอด 244 วัน มูลค่าการซื้อขาย 10,999,438.70 ล้านบาท เฉลี่ย 45,079.67 ล้านบาท พีคสุด 107,436.04 ล้านบาทในวันที่ 6 ก.ย.67 ลดลงต่ำสุด 24,098.70 ล้านบาทในวันที่ 26 ธ.ค.67 

บทสรุป Q1 สู่หุ้นไทย Q2/68 พายุเศรษฐกิจถล่ม หรือ ซ่อนโอกาส ?

โงหัวไม่ขึ้น! หุ้นไทยทิ้งดิ่งกว่า 257 จุด

หุ้นไทยในช่วง 3 ปี (3 ม.ค.65 - 31 ธ.ค.67) ดัชนีปิดที่ 1,400.21 จุด ลดลง -257.41 จุด คิดเป็น -15.53% โดยดัชนีปิดสูงสุด 1,713.20 จุดในวันที่ 18 ก.พ.2565 ขณะที่ปิดต่ำสุด 1,274.01 จุด ในวันที่ 6 ส.ค.2567

ตลอด 728 วัน มูลค่าการซื้อขาย 40,577,988.81 ล้านบาท เฉลี่ย 55,739 ล้านบาท พีคสุด 149,938.39 ล้านบาทในวันที่ 8 มี.ค.2565 ลดลงต่ำสุด 21,857.77 ล้านบาทในวันที่ 25 ธ.ค.2566

บทสรุป Q1 สู่หุ้นไทย Q2/68 พายุเศรษฐกิจถล่ม หรือ ซ่อนโอกาส ?

หากย้อนภาพไปไกลอีกนิด! ยิ่งจะเห็นความจริงที่ว่า.. ตลอดระยะเวลา 5 ปี (2563 - 2567) หุ้นไทยไม่ได้ดีขึ้น ลดลง -179.63 จุด คิดเป็น -11.37% ดัชนีขึ้นพีคสุดและต่ำสุดเช่นเดียวกับช่วง 3 ปี

เพียงแต่.. ตลอด 1,212 วัน มูลค่าซื้อขาย 78,255,128.46 ล้านบาท เฉลี่ย 64,566.94 ล้านบาท พีคสุด 175,296.31 ล้านบาทในวันที่ 27 พ.ค.2564 และต่ำสุด 21,857.77 ล้านบาทในวันที่ 25 ธ.ค.2566

บทสรุป Q1 สู่หุ้นไทย Q2/68 พายุเศรษฐกิจถล่ม หรือ ซ่อนโอกาส ?

จากแผ่นดินไหว สู่จุดเดือด!

ก้าวสู่จุดเดือดเดือนเมษายน นอกจากอากาศที่ร้อนคาดจะพีคสุดที่ทะลุ 40 องศาเซลเซียส ยังมีประเด็นร้อน "สงครามการค้า" ที่ยังเดือดดาลและป่วนเศรษฐกิจโลก

โดยวันนี้ (2 เม.ย.68) เวลา 16.00 น.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือช่วงเวลาตี 3 ของวันที่ 3 เม.ย.68ตามเวลาประเทศไทย "ทรัมป์" ประกาศเรียกเก็บภาษีตอบโต้ (RECIPROCAL TARIFFS) กับประเทศเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ โดยหนังสือพิมพ์ THE WASHINGTON POST รายงานว่าทรัมป์อาจเรียกเก็บภาษี 20% ต่อสินค้าส่วนใหญ่ที่มีการนำเข้าสู่สหรัฐฯ

นอกจากนี้ ในวันที่ 30 เม.ย.68 ประชุม กนง. ลุ้นปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ลงสู่ 1.75% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.00% 

ผ่าอนาคต Q2/68

ฝายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ตลาดหุ้นไทย ไตรมาส 2/2568 คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,000 - 1,290 จุด ส่วนหนึ่งเตรียมรับผลกระทบจาก Trade War ยุค TRUMP 2.0 ยังคงดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ยุโรป ซึ่งความเสี่ยงอยู่วันที่ 2 เม.ย.68 ว่าแนวทางการเก็บภาษีของสหรัฐฯต่อประเทศอื่นๆจะเป็นเช่นไร 

ภาพในประเทศเริ่มจากทิศทางดอกเบี้ยไทยประเมินช่วงครึ่งหลังปี68 มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง 0.25% หากตัวเลขเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นเท่าที่ควร กลับมาที่เศรษฐกิจไทยปี 68 มีแนวโน้มเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป BLOOMBERG คาดขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.8%จากปีก่อน โดยต้องเพิ่มยาแรงกระตุ้น อาทิ มาตรการต่างๆจากฝั่งรัฐบาล อาทิ DIGITAL WALLET และการผ่อนปรน LTV เป็นต้น 

ส่วนการโยกเม็ดเงิน LTF สู่ Thai ESGX อาจทำให้ต่างชาติเข้ามาเก็งกำไรก่อนวันมีผลบังคับใช้ เหมือนตอนมีกองทุนวายุภักษ์ ที่ SET ขยับขึ้นราว 200 จุด ภายใน 1 เดือน

ปัจจุบัน หุ้นไทยมี VALUATION ถูก มี PBV68F 1.15 เท่า (-2SD) ต่ำสุดเป็นอันดับต้นๆของโลก และ SET มี อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ปี 2568 สูง 4.3% (+1SD) สูงเป็นอันดับต้นๆของโลก

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นพื้นฐาน ESG RATING ดีๆ มีโอกาสได้เม็ดเงิน THAIESGX หนุน คือ

▪ หุ้นเข้าสู่ช่วง HIGH SEASON แนะนำ IVL ราคาเป้าหมาย 30 บาท อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) 4.6%, GPSC ราคาเป้าหมาย 45 บาท ผลตอบแทนเงินปันผล 3%, TTB ราคาเป้าหมาย 2.14 บาท ผลตอบแทนเงินปันผล 6.6%

▪ หุ้นปัจจัยบวกเฉพาะตัว แนะนำ AP ผลตอบแทนเงินปันผล 7.9% ราคาเป้าหมาย 12.80 บาท ทยอยสะสมหลังราคาหุ้นสะท้อนผลกระทบเหตุแผ่นดินไหวไปแล้ว อาจเป็นช่วงหลังสงกรานต์, CPALL ผลตอบแทนเงินปันผล 3.2% ราคาเป้าหมาย 88 บาท, STECON ผลตอบแทนเงินปันผล 2.7% ราคาเป้าหมาย 7 บาท

Thailand Web Stat