เดือด! จีนขึ้นภาษีสหรัฐฯอีก 34% หุ้นไทย 1,100 จุดเอาอยู่

เดือด! จีนขึ้นภาษีสหรัฐฯอีก 34% หุ้นไทย 1,100 จุดเอาอยู่

08 เมษายน 2568

จีนฟาดกลับสหรัฐเก็บภาษีสินค้าอีก 34% มีผล 10 เม.ย.นี้ ทรัมป์ขู่เก็บภาษีนำเข้าอีก 50% บล.ลิเบอเรเตอร์คาด SET แกว่ง 1,100-1,130 จุด ห้าม Short sell ชั่วคราวช่วยรั้งดาวไซด์

KEY

POINTS

  • จีนฟาดกลับสหรัฐเก็บภาษีสินค้าอีก 34% มีผล 10 เม.ย.นี้ ทรัมป์ขู่เก็บภาษีนำเข้าอีก 50%
  • บล.ลิเบอเรเตอร์คาด SET แกว่ง 1

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ดัชนี Dow Jones ในระยะสั้นปรับตัวลดลงแรง 3 วันติดต่อกัน ตอบรับความกังวลภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่มีความเสี่ยงต่อการเข้าสู่ภาวะถดถอยมากยิ่งขึ้น หลังสถานการณ์ประเด็นภาษีนำเข้ายังคงยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น 

ล่าสุดทางกระทรวงการคลังของจีนได้ประกาศจะเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มอีก 34% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.นี้ ส่วนด้านทรัมป์ตอบโต้โดยการก็ขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เพิ่มขึ้นอีก 50% หากจีนไม่ยกเลิกการเรียกเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯเพิ่มเติมภายในวันนี้ (8 เม.ย.6)ดังนั้นยังแนะติดตามการตอบโต้ภาษีอย่างใกล้ชิด

ส่วน SET วันนี้คาดแกว่งผันผวน ท่ามกลางความเสี่ยงที่เร่งขึ้น แต่อย่างไรก็ดีทางด้าน ตลท.มีการออกมาตรการห้าม Short sell ชั่วคราว ในช่วง 8-11 เม.ย.นี้ คาดจะช่วยจำกัด Downside ยิ่งขึ้น ผสานกับวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์มีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปไทย เดือน มี.ค. ที่ +0.84% จากปีก่อน ชะลอจาก ก.พ. ที่ +1.08% และต่ำกว่าคาดที่ +1.0% 

เช่นเดียวกับเงินเฟ้อพื้นฐาน +0.86% จากปีก่อน ชะลอจาก +0.99% และต่ำกว่าคาดที่ +1.0% เช่นกัน โดยจากตัวเลขเงินเฟ้อไทยที่ต่ำคาด ผสานภาพรวมเศรษฐกิจไทยในระยะสั้นที่เผชิญกับความเสี่ยงประเด็นภาษีตอบโต้ของทรัมป์ (รอการเจรจาก่อนกำหนดเส้นตาย 9 เม.ย.นี้) คาดจะเพิ่มโอกาสที่ กนง.จะตัดสินใจลดดอกเบี้ยไทยอีก 0.25-0.5% ในช่วงที่เหลือของปี

คาด SET วันนี้ “ผันผวน” ในกรอบ 1,100-1,130 จุด ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงวุ่นวายยิ่งขึ้น หลังจีนขึ้นภาษีตอบโต้ US ขณะที่ทรัมป์ก็ขู่ปรับเพิ่มภาษีมากขึ้นตอบโต้เช่นกัน ส่วนไทยยังรอการเจรจาภาษี ขณะที่มีการออกมาตรการห้าม Short sell ชั่วคราวคาดช่วยจำกัด Downside ส่วนกลยุทธ์ยังเน้นย่อตั้งรับกลุ่มปลอดภัย

โดยวันนี้แนะนำ “BDMS” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3 บาท คาดกำไรไตรมาส 1/68 ยังเติบโตได้ทั้งจากไตรมาสก่อนและปีก่อนจากการเติบโตของรายได้ผู้ป่วยต่างชาติและชาวไทย รวมทั้งผลกระทบจากเดือนรอมฎอนที่ไม่มากนัก

ส่วนภาพรวมปีนี้คาดกำไรเติบโตราว +10% จากปีก่อน ส่วนภาพระยะยาวมีแนวโน้มเชิงบวกจากแผนการเพิ่มจำนวนเตียงที่มากขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายเทียบเคียงใกล้ระดับ -2.0SD ถือว่าเป็นระดับที่น่าทยอยสะสม

Thailand Web Stat