posttoday

SET แกว่งลง กรอบ 1,110-1,150 จุด กังวลสงครามการค้าขยายวงกว้าง

22 เมษายน 2568

SET แกว่งลง กรอบ 1,110-1,150 จุด หลังมีข่าวการเจรจาภาษีไทย-สหรัฐฯ เลื่อนออกไปไร้กำหนด และกังวลสงครามการค้าขยายวงกว้าง กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ TRUE และ BDMS

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET แกว่งตัวลง หลังมีกระแสข่าวว่าการเจรจาภาษีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ 23 เม.ย. ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด อีกทั้งยังมีความตึงเครียดสงครามการค้าขยายวงกว้าง หลังจีนพร้อมตอบโต้ประเทศต่างๆ หากทำข้อตกลงกับสหรัฐที่สร้างความเสียหายกับจีน ขณะที่ Bond Yield ดีดตัวขึ้น อาจทำให้ นลท. เข้าสู่ภาวะ Risk-Off ประเมินแนวรับที่ 1,120-1,110 จุด แนวต้านที่ 1,143-1,150 จุด

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET ยังแกว่งตัวผันผวนและการซื้อขายจะเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐที่มีต่อประเทศคู่ค้า รวมทั้งยังต้องติดตามความคืบหน้าการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อและทวีความรุนแรงขึ้น จะส่งผลกดดันต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและบรรยากาศการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ขณะที่ในประเทศมองยังไร้ปัจจัยบวกใหม่และอยู่ระหว่างจับตาการเข้าเจรจาทางการค้าของรัฐบาลไทยกับสหรัฐ ซึ่งคาดข้อสรุปอาจต้องใช้เวลา 2-3 เดือน

ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ "Selective Buy" ใน 2 ธีมหลัก และ 1 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY 2) ฐานะการเงินแกร่ง และ 3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาดให้ Div. Yield อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้นน่าสนใจ SET50: ADVANC BBL BDMS CPALL PTT และ SET100: BCH BTG

2. หุ้น Undervalued ซึ่งปัจจุบันซื้อขายที่ PER และ PBV 68F ระดับต่ำกว่า -1SD และมี SET ESG Ratings ระดับ A-AAA ขณะที่ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ดี YoY และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง อีกทั้งมีศักยภาพจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อยปีละ 3% แนะนำ BJC CPF AP HMPRO OR

3. Trading Idea นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไรภายใต้สงครามการค้าที่มีท่าทีรุนแรงขึ้น แนะนำหุ้นที่มีรายได้ภายในประเทศเป็นหลักซึ่งจะต้านทานความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ดีกว่า โดยเฉพาะหากสามารถกำหนดราคาและส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งคาดจะได้ประโยชน์จากการปรับลงของราคาน้ำมันและดอกเบี้ย ได้แก่ BCH CPALL CPAXT GULF MTC OR และ TRUE ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่มที่ได้ผลกระทบทางตรงจากส่งออกไปสหรัฐ ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ยาง สินค้าเกษตร เครื่องประดับ และกลุ่มที่ได้ผลกระทบทางอ้อม ได้แก่ นิคม ท่องเที่ยว ธนาคาร

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ TRUE มองเป็นหุ้นเด่นกลุ่มสื่อสาร โดยคาดไตรมาส 1/2568 กำไรปกติจะอยู่ที่ 3.7 พันล้านบาท เติบโต 364.7%YoY และ 4.7%QoQ พร้อมคาดจะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ในไตรมาส 2/2568 อีกทั้งยังมี Upside จากการประมูลคลื่นความถี่ นอกจากนี้ผลประกอบการน่าจะได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีการค้าสหรัฐค่อนข้างจำกัด

BDMS มองเป็นหุ้นปลอดภัยภายใต้ตลาดที่ผันผวนสูงและราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากคาดเป็นหนึ่งในเป้าหมายกองทุน ThaiESGX เนื่องจากมี SETESG Rating ระดับ A ขณะที่กำไรยังมีโมเมนต้มเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2568 คาดกำไรจะเติบโต 8%YoY และ Valuation ไม่แพง โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PER 68F ระดับ 21.7 เท่า ต่ำกว่า -2SD ของ PER เฉลี่ย 10 ปี