BKA เปิดเทรดวันแรก 2.40 บาท เหนือจอง 33.33% จากราคาไอพีโอ 1.80 บาท
BKA เปิดเทรด mai วันแรก 2.40 บาท พุ่ง 33.33% จากราคาไอพีโอ 1.80 บาท นำเงินขยายพอร์ตธุรกิจให้บริการปรับปรุงบ้านมือสองเพื่อขาย สร้างแพลตฟอร์ม Prop Tech ตัวกลางซื้อขายอสังหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันนี้ (22 เม.ย.2568) เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยเปิดที่ราคา 2.40 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 33.33% จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 1.80 บาท
ทั้งนี้ BKA ประกอบธุรกิจให้บริการปรับปรุงบ้านมือสองเพื่อขาย เป็นนายหน้าซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ และซื้อบ้านมือสองมาปรับปรุงเพื่อขาย
BKA เสนอราคาขาย IPO ที่ 1.80 บาท/หุ้น จำนวนไม่เกิน 60,000,000 หุ้น คิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย และในข้อบังคับของบริษัท
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้
1.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในดำเนินงานของบริษัท เพื่อขยายพอร์ตการให้บริการบ้านแต่ง (Flipping) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ บ้านมือสองที่มีศักยภาพการเติบโตจากสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) มีทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ในระบบจำนวนมากซึ่งคุ้มค่าต่อการลงทุน
2.ใช้พัฒนาธุรกิจ Property Technology (Prop Tech) สร้าง Platform ตัวกลางในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ จากการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาข้อมูลให้แก่ผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน และเทคโนโลยีระบบเสมือนจริง (Virtual Reality) มาใช้ในการแนะนำบ้านให้กับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านได้เห็นภาพบ้านเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์
ทางด้านผลการดำเนินงานในปี 2565-2567 บริษัทมีรายได้รวม อยู่ที่ 1,302.92 ล้านบาท 1,313.59 ล้านบาท และ 1,142.46 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 21.44 ล้านบาท 22.27 ล้านบาท และ 36.82 ล้านบาท ตามลำดับ
นายพชร ธนวงศ์เกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA เปิดเผยว่า พื้นฐานทางธุรกิจของ BKA เป็นผู้นำธุรกิจบริการซื้อ-ขายบ้านมือสองตกแต่งใหม่ ที่มุ่งให้บริการปรับปรุงบ้านมือสองเพื่อขาย ในรูปแบบธุรกิจบ้านแต่ง (Flipping) ธุรกิจนายหน้าซื้อ-ขาย อสังหาริมทรัพย์ (ธุรกิจบ้านฝาก) และธุรกิจซื้อบ้านมือสองมาปรับปรุงเพื่อขาย (ธุรกิจบ้านตัด) ที่ได้การยอมรับจากกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ก้าวสู่ “การเป็นที่หนึ่งเรื่องบ้านมือสอง
การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกสู่การเป็นบริษัทมหาชนอย่างเต็มตัว รวมถึงยังเป็นการสร้างโอกาสเติบโตให้กับบริษัท ทั้งฐานทุนที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่มศักยภาพภาพลักษณ์องค์กร ให้เป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นด้วย
ดังนั้นด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งทางธุรกิจ ประกอบกับทีมบริหารที่มีวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ธุรกิจที่ชัดเจน ยิ่งตอกย้ำว่า BKA มีโอกาสการเติบโตเพิ่มขึ้น จึงมองว่านักลงทุนที่ลงทุนไปพร้อมกับเราในวันนี้ก็จะเติบโตไปพร้อมๆ กับ BKA เช่นกัน
พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน ทางผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ก่อตั้งบริษัทพร้อมใจกัน Lock-Up ตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมกัน 87% ของทุนชำระแล้วก่อน IPO หรือคิดเป็น 62.14% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO เพื่อเป็นการยืนยันว่าเทรดวันแรกจะไม่มีการเทขายจากกลุ่มนี้ออกมาอย่างแน่นอน