posttoday

เส้นทาง WSOL ทุนใหม่ SABUY ลุยสางหนี้ สู่ “พลิกกำไร” ครึ่งแรกปี 69

23 เมษายน 2568

WSOL ทุนใหม่ SABUY จาก “พันธมิตร” สู่ “ฟ้องร้อง” ยันไม่ใช่นอมินี เดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้ ลดต้นทุน ดัน EBITDA เป็นบวก ปั้นธุรกิจใหม่เพิ่ม พลิกสู่กำไรในช่วงครึ่งแรกปี 69

KEY

POINTS

  • WSOL ทุนใหม่ SABUY จาก “พันธมิตร” สู่ “ฟ้องร้อง” ยันไม่ใช่นอมินี เดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้ ลดต้นทุน ดัน EBITDA เป็นบวก สร้างทีมที่แข็งแกร่ง ปั้นธุรกิจใหม่เพิ่ม พลิกสู่กำไรในช่วงครึ่งแรกปี 69
  • เปิดแผนธุรกิจปี 68 ภายใต้ธีม Mission Possible เดินเกมรุก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก “Financial & Payment Solutions-B2C Solutions-B2B Solutions” ตั้งเป้ารายได้โต 20% แตะ 3,584 ล้านบาท 
  • เตรียมเปลี่ยนชื่อบริษัทและเปลี่ยนชื่อย่อหลักทรัพย์ เป็น “ดับบลิว เอส โอ แอล” หรือ WSOL อย่างเป็นทางการ ภายในต้นเดือน พ.ค.68
  • ลุยแพลตฟอร์ม WeiD เชื่อมต่อทุกบริการของ WSOLไว้ในที่เดียว เตรียมเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4/68

เรื่องความวุ่นวายใน บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ที่เกิดจากผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารชุดเดิม ได้สร้างความเสียหายให้กับบริษัท ผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นกู้ เป็นอย่างมาก

แต่หลังจากที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารชุดใหม่ ภายใต้การนำของ “อิทธิชัย พูลวรลักษณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิว เอส โอ แอล จำกัด (มหาชน) หรือ WSOL (ชื่อบริษัทใหม่ของ SABUY) ได้เข้ามาสางปัญหาหนี้ เพื่อพลิกฟื้นธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ 

จากจุดเริ่มต้นที่ “อิทธิชัย พูลวรลักษณ์” เข้ามาเป็นพันธมิตร SABUY ผ่านการซื้อหุ้นเพิ่มทุน จนกระทั่งเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมื่อเดือน พ.ย.2567 

ในช่วงเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เข้ามานั่งในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้กว่า 6,000 ล้านบาท ทั้งการเจรจาเจ้าหนี้ทุกราย ขอขยายเวลาไถ่ถอนหุ้นกู้และลดอกเบี้ยหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุด มูลค่ารวมกว่า 3,900 ล้านบาท ทำให้ลดต้นทุนทางการเงินมากกว่า 50% และมีการนับสินค้าคงคลังใหม่ 100% รวมไปถึงเร่งสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน จนทำให้กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในไตรมาส 1/2568 กลับมาเป็นบวก จากปี 2567 ติดลบ 12% 

นอกจากนี้ ยังได้ยื่นฟ้องคดีแพ่งบริษัทแห่งหนึ่ง เพื่อเรียกร้องให้ชำระหนี้เงินกู้ตามสัญญา เป็นทุนทรัพย์ตามฟ้องประมาณ 900 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นกรณีที่บริษัทได้ให้สินเชื่อแก่บริษัทดังกล่าวในช่วงระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ย.2566

ขณะเดียวกัน ได้ยื่นฟ้องคดีเพื่อเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายจากอดีตผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ศาลที่มีอำนาจพิจารณาในประเด็นที่บริษัทเห็นว่าอาจมีการดำเนินการที่ไม่สอดคล้องกับระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ เพิกเฉยและไม่ระมัดระวังในการรักษาผลประโยชน์และทรัพย์สินให้กับบริษัท ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย เป็นทุนทรัพย์รวมตามฟ้องประมาณ 1,700 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • การว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินโดยไม่เป็นไปตามอำนาจอนุมัติ มูลค่าประมาณ 55 ล้านบาท
  • การขายทรัพย์สินของบริษัทฯ ขาดทุน โดยไม่มีเหตุผลจำเป็นเร่งด่วน มูลค่าประมาณ 745 ล้านบาท
  • การอนุมัติปล่อยสินเชื่อโดยปราศจากความระมัดระวัง มูลค่าประมาณ 970 ล้านบาท 

“อิทธิชัย พูลวรลักษณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิว เอส โอ แอล จำกัด (มหาชน) หรือ WSOL ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่อันดับ 1-3 คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 40% ส่วนผู้ถืหุ้นเดิมอันดับ 1-2 ได้หายไป 100% ยืนยันว่าไม่ได้เป็นนอมินีใคร เข้ามาเพื่อทำให้บริษัทเดินหน้าต่อไปได้

“บริษัทกลับมายืนได้ด้วยทีมใหม่ ระบบภายในที่แข็งแกร่ง และโอกาสจากผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่าย จากเป้าหมายที่วางไว้ในปีที่แล้ว คือ 1.ดัน EBITDA ของกลุ่มให้กลับมาเป็นบวก 2.ฟื้นความเชื่อมั่นและสร้างความโปร่งใส และ 3.ปรับโครงสร้างหนี้ให้เหมาะสม ซึ่งเราสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวภายใน 3 เดือน” 

จากการปรับโครงสร้างองค์กร และการดำเนินการต่างๆ ที่ผ่านมา รวมถึงยังคงเดินหน้าทำให้บริษัทจะสามารถกลับมาดำเนินงานได้อย่างมีเสถียรภาพ โดยตั้งเป้าหมายกลับมามีกำไรสุทธิ ภายในครึ่งแรกของปี 2569 จากปี 2567 มีผลขาดทุน 6,328 ล้านบาท และสร้างทีมที่แข็งแกร่ง ยืดหยุ่น พร้อมรับทุกสถานการณ์ พร้อมปั้นธุรกิจใหม่ที่เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไปในอนาคต

สำหรับแผนธุรกิจปี 2568 ภายใต้ธีม Mission Possible บริษัทวางเป้าหมายยกระดับการดำเนินงานสู่การเป็นองค์กรที่มีศักยภาพทางธุรกิจ และมีผลประกอบการฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นการบริหารงานภายใต้ความมีธรรมาภิบาล โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน เพื่อสร้างพื้นฐานใหม่ให้กับกิจการ และรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย 

โดยบริษัทลดจำนวนบริษัทย่อย บริษัทในเครือจาก 50 บริษัท เหลือไม่เกิน 15 บริษัท โดยเน้น 6-8 บริษัท ที่จะสร้างรายได้หลักให้กับบริษัท ภายใต้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.Financial & Payment Solutions 2.B2C Solutions และ 3.B2B Solutions 

เส้นทาง WSOL ทุนใหม่ SABUY ลุยสางหนี้ สู่ “พลิกกำไร” ครึ่งแรกปี 69

ทั้งนี้ ในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวม (เฉพาะธุรกิจหลัก) 3,584 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน ที่มีรายได้จากธุรกิจหลัก 2,992 ล้านบาท แต่ลดลงจากปีก่อน ที่มีรายได้รวม 5,383 ล้านบาท เนื่องจากในปีก่อนมีรายได้จากการรวมงบบริษัทในเครือเข้ามาด้วย  

รายได้ในปี 2568 แบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจ Financial & Payment Solutions (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 35%) คาดว่าจะมีรายได้ 1,251 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีก่อน ที่มีรายได้ 966 ล้านบาท หลักๆ มาจาก “Love Prompt” ธุรกิจให้เช่าเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 50% จากปีก่อน และ “พร้อมเติม” ธุรกิจตู้เติมเงิน-จ่ายบิล ตั้งเป้าหมายมีรายได้ 400 ล้านบาท พร้อมขยายบริการใหม่บนโครงสร้างตู้เดิม

กลุ่มธุรกิจ B2C Solutions (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 47%) คาดว่ามีรายได้ 1,701 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน ที่มีรายได้ 1,551 ล้านบาท หลักๆ จะมาจาก “พร้อมสปีด” ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 25% จากปีก่อน เตรียมขยายจุดรับ-ส่งพัสดุ 2,000 จุดทั่วประเทศ รวมถึงการกลับมาจับมือกับ Flash Express และ “พร้อมเวนดิ้ง” ที่กลับเข้าสู่ตลาดด้วยตู้ขายอัตโนมัติ 10,000 เครื่อง ภายในสิ้นปี พร้อมแผนจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในอนาคต

กลุ่มธุรกิจ B2B Solutions (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 18%) คาดว่ามีรายได้ 636 ล้านบาท เติบโต 34% จากปีก่อน ที่มีรายได้ 476 ล้านบาท หลักๆ จากธุรกิจบัตรของ “บริษัท พลัส เทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTECH” ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 35% จากปีก่อน พร้อมเตรียมเข้าประมูลงานภาครัฐ และ “WSOL Solution” ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20% จากปีก่อน เตรียมรุกตลาดระบบ POS เต็มรูปแบบ เจาะกลุ่มงานอีเวนต์ คอนเสิร์ต สวนน้ำ และเทศกาลต่างๆ

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนรีแบรนด์องค์กรสู่ WSOL อย่างเต็มรูปแบบ และร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ทางธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้ พัฒนาบริการ ตลอดจนเปิดตัวโครงการและผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อยกระดับศักยภาพของธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด บริษัทได้ทำการพัฒนา WeiD เป็น Super App ที่เชื่อมต่อทุกบริการของ WSOL สู่ผู้ใช้ปลายทาง โดยใช้ระบบ AI-Powered CRM และฐานข้อมูลลูกค้าเชิงลึก เพื่อยกระดับประสบการณ์ในทุกมิติ

บริการของแอปพลิเคชันดังกล่าว ประกอบด้วย WeXpress ให้บริการ อาทิ เปรียบเทียบค่าขนส่งราคาประหยัด นำพัสดุไปฝากส่งเองที่จุดรับ และติดตามสถานการณ์จัดส่งพัสดุ WePay ให้บริการ อาทิ วอลเล็ทเติมเงินมือถือ และการชำระบริการรายเดือน WeMarket ให้บริการ อาทิ ตู้ขายของอัจฉริยะ การยืนยันตัวตนในรูปแบบต่างๆ และยังมีบริการอื่นๆ ภายในแอปพลิเคชัน อาทิ การชำระเงิน บริการผ่อนชำระ ฯลฯ เตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 4/2568 

เส้นทาง WSOL ทุนใหม่ SABUY ลุยสางหนี้ สู่ “พลิกกำไร” ครึ่งแรกปี 69

ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมเปลี่ยนชื่อบริษัทและเปลี่ยนชื่อย่อหลักทรัพย์ จาก บริษัท สบายเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เป็น บริษัท ดับบลิว เอส โอ แอล จำกัด (มหาชน) หรือ WSOL อย่างเป็นทางการ ภายใน 1-2 วัน หลังจากเสนอผู้ถือหุ้นอนมัติในการประชุมผู้ถือหุ้นในที่ 28 เม.ย.2568 หรือภายในต้นเดือน พ.ค.2568 
 
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นปัจจุบัน อันดับ 1-3 (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มี.ค.2568) ประกอบด้วย

  • 1.นายอิทธิชัย พูลวรลักษณ์ ถือหุ้น 362,500,000 หุ้น คิดเป็น 14.91%
  • 2.Insignia Holdings Limited ถือหุ้น 350,000,000 หุ้น คิดเป็น 14.39%
  • 3.นายวริศ ยงสกุล ถือหุ้น 140,885,700 หุ้น คิดเป็น 5.79% 

ส่วนโครงส้รางผู้ถือหุ้นเดิม อันดับ 1-2 (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.2567) ประกอบด้วย 

  • 1.นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ถือหุ้น 356,845,700 หุ้น คิดเป็น 20.20%
  • 2.นายอานนท์ชัย วีระประวัติ ถือหุ้น 127,000,000 หุ้น คิดเป็น 7.19%