ประชุม กนง. พุธนี้! ลุ้นหั่นดอกเบี้ย โบรกแจกหุ้น "ได้-เสีย"รับมติ

ประชุม กนง. พุธนี้! ลุ้นหั่นดอกเบี้ย โบรกแจกหุ้น "ได้-เสีย"รับมติ

29 เมษายน 2568

ตลาดเงินไทยจับตาประชุม กนง. วันพุธนี้ 5 โบรกชี้มีลุ้นลดดอกเบี้ย 0.25% หนุนเศรษฐกิจไทย พร้อมแจก "หุ้นเด่น-หุ้นเสี่ยง" รับมติ

KEY

POINTS

  • ตลาดเงินไทยจับตาประชุม กนง. วันพุธนี้ 30 เม.ย.2568 เวลา 14.00 น.
  • 5 โบรกชี้มีลุ้นลดดอกเบี้ย 0.25% หนุนเศรษฐกิจไทย พร้อมแจก "หุ้นเด่น-หุ้นเสี่ยง" รับมติ

ในวันพรุ่งนี้ (30 เม.ย.68) เวลา 14.00 น. มีกำหนดประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 2/2568 โดย CONSENSUS ให้น้ำหนัก 81% คาดว่าจะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยลงมาสู่ระดับ 1.75%

นอกจากนี้ยังมีสัญญาณจาก BOND YIELD 10Y ของไทย ล่าสุดขยับลงมาอยู่ที่ 1.9% ซึ่งต่ำกว่า POLICAY RATE ปัจจุบันที่ 2% 

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส มองว่ากรณีที่ไทยมีการลดดอกเบี้ยตามคาดการณ์มีโอกาสที่ SETจะไม่พุ่งขึ้นแรงเมื่อเทียบกับภาวะปกติ เป็นเพราะตลาดอาจรับรู้ไปในระดับหนึ่งแล้ว นอกจากนี้น่าจะเห็นการปรับลดประมาณ GDP GROWTH ของไทยในนี้ลงมา เช่นเดียวกับหลายๆ เศรษฐกิจ จากความไม่แน่นอนของนโยบายตั้งกำแพงภาษีสหรัฐฯ

ในทางกลับกัน สำหรับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ FEDWATCH TOOL ยังคงให้น้ำหนักมากกว่า 90% คาด FED คงดอกเบี้ยในการประชุมรอบวันที่ 7 พ.ค.นี้ซึ่งในกรณีที่ “ไทย” ปรับลดดอกเบี้ยเร็วกว่า “FED” อาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าได้ในช่วงสั้นๆ 

ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินภายใต้ EPS68F ที่หัก DOWNSIDE จากค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันดิบ WTI ปีนี้ที่ถูกกว่าปีก่อนหน้าราว 10 เหรียญฯ จะเหลือ 80 บาท/หุ้น และอิง MEYG 5.8% ระดับสูงสุดตลอดกาล จะได้แนวรับทางพื้นฐานที่ระดับ 1,026 จุด แต่ถ้าลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1 ครั้ง เหลือ 1.75% จะได้แนวรับทางพื้นฐานที่ระดับ 1,060 จุดซึ่งอยู่ระดับใกล้เคียงดัชนีปัจจุบันถือเป็นโอกาสสะสมสำหรับนักลงทุนที่หวังผลกำไรระยะกลาง-ยาว

สะสมหุ้นแบงก์

บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงมองต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ว่าด้วยการที่ตลาด Price in การลดดอกเบี้ยไปในระดับสูงแล้ว ต่อให้การลดเกิดขึ้นจริง ก็คงจะเป็น Upside ส่วนเพิ่มให้กับ SET Index ได้อีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คงประเมินแนวต้านที่ 1,170 จุด

นอกจากนั้น ปัจจัยกดดันทางตรงล่าสุด คือ การปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ไทยที่ดูเหมือนจะเร่งตัวขึ้นอีกครั้งหลังเข้าสู่เทศกาลประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/68 ล่าสุด 2025E EPS อยู่ที่ 92.3 บาท ปัจจัยนี้จะกลายมาเป็นตัวกลบแรงบวกจากปรากฏการณ์ PE Expansion ที่รออยู่จากการลดดอกเบี้ยได้สอดคล้องกับมุมมองของเราที่ว่าการลดดอกเบี้ยในช่วง Mid-cycle นั้น มักจะเกิดขึ้นไปพร้อมๆกับการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นเป็นส่วนใหญ่

หาก ธปท. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในวันที่ 30 เม.ย.นี้ จะเป็นผลกระทบเชิงลบเล็กน้อยต่อ Fund flow เนื่องจากเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่อาจจะยังเลือกกระจุกตัวอยู่ในตลาดพันธบัตรไทยเป็นสำคัญ ส่วนหนึ่งจากมุมมอง Downside risk ทางเศรษฐกิจที่เปิดกว้างมากขึ้น รวมไปถึงความคาดหวังการลดดอกเบี้ยที่อาจจะมีเกิดขี้นอีกในปีนี้

ในเชิงกลยุทธ์ คงแนะนำให้ผู้ที่มีกำไรจากกลุ่ม Rate sensitive เช่น ไฟแนนซ์ หาจังหวะ Take profit ก่อนหน้าการประชุม กนง. ส่วนหนึ่ง และ Sell on fact ในส่วนที่เหลือหลังการประชุม ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร

ในทางกลับกัน แนะนำมองหาจังหวะทยอยเข้าสะสมกลุ่มธนาคาร ที่ราคาช่วงที่ผ่านมา รับข่าวการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปมาแล้วเช่นกัน โดยธนาคารขนาดใหญ่ที่ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ในเชิงพื้นฐานจะได้แก่ KTB, BBL และ KBANK

ปัจจัยลบกดแน่น

บล.ไอร่า คาดว่าที่ประชุม กนง.จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% อีกครั้งในการประชุมเดือน เม.ย.นี้ สู่ระดับ 1.75% จากความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ รวมทั้งคาดจะได้รับผลกระทบจากสงครามทางการค้า

มองเป็นปัจจัยลบต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL และ KTB กดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ แต่อาจเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มธุรกิจการเงิน (MTC และ SAWAD) 

ราคาหุ้นสะท้อนลดดอกเบี้ยล่วงหน้า

บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) คาดว่า SET Index จะแกว่งตัวพักฐานบริเวณ 1,135-1,180 จุด เพื่อรอผลการประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ (30 เม.ย.) ตลาดคาดว่าจะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง

ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า กนง.จะปรับลด 0.25% มาที่ระดับ 1.75% ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นกลุ่มการเงิน, อสังหาฯ, โรงไฟฟ้าและกลุ่มค้าปลีก อย่างไรก็ตามมองว่าตลาดน่าตอบรับปัจจัยบวกนี้ไปพอสมควรแล้วส่งผลให้ราคาหุ้นอาจไม่ได้ปรับตัวขึ้นแรงมากนัก

3 กลุ่มรับอานิสงส์

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส คาดว่าประชุม กนง.จะมีการลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เป็น 1.75% และอาจปรับมุมมองแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ซึ่งดอกเบี้ยลดเป็น Sentiment บวกกับกลุ่มไฟแนนซ์ หุ้นเด่น MTC, กลุ่มที่มีหนี้สูง หุ้นเด่น BGRIM, MINT, CPALL, TRUE เป็นต้น รวมถึงบวกกับหุ้นปันผลสูงด้วย

SAWAD-BJC-CPALL เด่น

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ให้โอกาส 75% กนง. จะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 30 เมษายน 2568 โดยมีปัจจัยสนับสนุน ดังนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย แสดงลักษณะ “inverted yield curve” โดยอัตราผลตอบแทนระยะสั้น 1 ปี สูงกว่าอัตราผลตอบแทนระยะกลาง 5 ปี อยู่ที่ 1.56% และต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนระยะยาว 10 ปี ที่ 1.89% สะท้อนตลาดกังวลเศรษฐกิจในระยะกลาง และคาดแนวโน้มดอกเบี้ยเป็นขาลง

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.8% ในเดือนมีนาคม และคาดว่าจะลดลงเหลือประมาณ 0.15% ในไตรมาสที่ 2 ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายของ ธปท. ที่ 1-3%

ธปท. มีโอกาสปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP ปีนี้ลงอีกเหลือต่ำกว่า 2.5% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 2.9% ความไม่แน่นอนทางการค้าโลก การขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯต่อสินค้าไทยส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและการส่งออก

โดยหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง เน้น MTC, SAWAD, GULF, GPSC, CPALL, BJC และ MINT

"กลยุทธ์เน้น Rate Cut Play แม้เราให้โอกาสน้อย 25% กนง.อาจไม่ลดดอกเบี้ยสวนตลาดคาด แต่ภาพ Dovish Sign และวงจรดอกเบี้ยขาลงจะดำเนินต่อไปหนุน SAWAD, BJC, CPALL เด่น"

Thailand Web Stat