SCGP กำไร Q1/68 ทำได้ 899 ล้านบาท จับตา Q2 โตแรงก่อนกำแพงภาษี

SCGP กำไร Q1/68 ทำได้ 899 ล้านบาท จับตา Q2 โตแรงก่อนกำแพงภาษี

29 เมษายน 2568

SCGP กำไรไตรมาส 1/68 ทำได้ 899.87 ล้านบาทดีกว่าคาด ไตรมาส 2/68 โตต่อรับออเดอร์ลูกค้าเร่งส่งออก ต้นทุนกระดาษ-พลังงานลด 3โบรกชี้กราฟราคา ลุ้นต้าน 14-14.70 บาท

KEY

POINTS

  • SCGP กำไรไตรมาส 1/68 ทำได้ 899.87 ล้านบาทดีกว่าคาด
  • ไตรมาส 2/68 โตต่อรับออเดอร์ลูกค้าเร่งส่งออก บวกต้นทุนกระ

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น "บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP" ซื้อขายวันนี้ (29 เม.ย.68) เวลา 13.80 น. อยู่ที่ 0.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท คิดเป็น +3.76% มูลค่าการซื้อขาย 224.62 ล้านบาท

SCGP กำไร Q1/68 ทำได้ 899 ล้านบาท จับตา Q2 โตแรงก่อนกำแพงภาษี

บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 1/68 มีกำไรสุทธิ 899.87 ล้านบาท ลดลง 48% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,724.65 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปในทางเดียวกันกับรายได้จากการขายที่ลดลง ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ขณะที่ EBITDA เท่ากับ 4,232 ล้านบาท ลดลง 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA margin อยู่ที่ 13%

โดยบริษัทมีรายได้จากการขายรวม 32,209 ล้านบาท ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายของธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรและธุรกิจเยื่อและกระดาษลดลง ประกอบกับปริมาณขายส่งออกของกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่ชะลอตัว

ด้านต้นทุนขาย ที่ 26,411 ล้านบาท ลดลง 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นต้นทุนขายของสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร 19,872 ล้านบาท สายธุรกิจเยื่อและกระดาษ 6,004 ล้านบาท และธุรกิจรีไซเคิล 1,586 ล้านบาท ขณะที่มีต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหาร 4,047 ล้านบาท ลดลง 6%

ต้นทุนขายแยกตามสายธุรกิจ ต้นทุนขายแยกตามสายธุรกิจ

SCGP ร่วมมือทางธุรกิจผ่านการบริหารจัดการด้านวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพจากหลากหลายแหล่ง โดยการจัดหาภายในประเทศประมาณ 64% ของการใช้วัตถุดิบกระดาษรีไซเคิล (RCP) ทั้งหมดของบริษัท โดยดำเนินการผ่านเครือข่ายพันธมิตรและศูนย์จัดการวัสดุรีไซเคิล 176 แห่ง

รวมถึงการจัดหาโดยตรงจากพันธมิตรทางธุรกิจ ส่วนที่เหลืออีก 36% มาจากการนำเข้าจากแหล่งที่มีคุณภาพในยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และโอเชียเนีย

นอกจากนี้ ลงทุนธุรกิจรีไซเคิลวัสดุบรรจุภัณฑ์ในต่างประเทศที่ Peute (เนเธอร์แลนด์) และ Jordan Trading (สหรัฐอเมริกา) ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการจัดหาวัตถุดิบกระดาษรีไซเคิล (RCP) 

อวดกำไรทั้งปี 4 พันล้าน

บล.ฟินันเซีย ไซรัส รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 1/68 ที่ 900 ล้านบาท หัก FX loss 18 ล้านบาท จะเป็นกำไรปกติ 918 ล้านบาท ดีกว่าฝ่ายวิเคราะห์คาด 6% และดีกว่า Bloomberg consensus คาด 10%

กำไรปกติในไตรมาส 1/68 ฟื้น 1,397% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 45%จากปีก่อน กำไรที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน หลักๆมาจากต้นทุนวัตถุที่ปรับลง แต่กำไรที่ลดลงจากปีก่อน เพราะไตรมาส 1/67 เป็นช่วงที่การบริโภคในอาเซียนยังสดใสมาก

รายได้ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย 3% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเติบโตจากปริมาณ ไม่ใช่ราคาขาย ภาพรวมการบริโภคในภูมิภาคอาเซียนยังโตได้โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม แม้จะเห็นการระมัดระวังในการจับจ่ายอยู่บ้าง แต่การแข่งขันที่รุนแรงจากจีน ทำให้ไม่สามารถขึ้นราคาขายได้ แต่รายได้ ลดลง 5% จากปีก่อน 

ต้นทุนวัตถุดิบกระดาษรีไซเคิล ราคาพลังงาน ค่าขนส่งที่ปรับลง และการคุม SG&A ที่ดี ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับขึ้นเป็น 18% จาก 13.8% ในไตรมาส 4/67 และ EBITDA เพิ่มขึ้น 43% จากไตรมาสก่อนหน้า และมี EBITDA margin 13.2% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/67 ที่ 9.5%
 
กำไรในไตรมาส 1/68 คิดเป็น 23% ของคาดการณ์ทั้งปีที่ 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จากปีก่อน ทิศทางผลประกอบการทยอยฟื้นตัวโดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังปี68 หลังปรับโครงสร้างการเงินของ Fajar แล้วเสร็จ ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงประมาณการ 

SCGP ระยะสั้นหากไม่ย้อนลงต่ำกว่าแนวรับ 13 บาท มีโอกาสไต่ระดับเข้าหาแนวต้าน 14-14.20 บาท ขณะที่กำไรไตรมาส 1/68 ดีกว่าคาด แนะนำ "เก็งกำไร"

โค้ง 2/68 กำไรฟื้น

บล.กรุงศรี ระบุว่า มอง slightly positive ต่อการประกาศงบกำไร ไตรมาส 1/68 ที่ออกมาสูงกว่า bloomberg consensus คาดราว 8% ระยะสั้นมีปัจจัยบวกของแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/68 ที่ฟื้นจากไตรมาสก่อนหน้าต่อจากปริมาณขายที่เพิ่มขึันจากความต้องการเร่งส่งออกของกลุ่มลูกค้าก่อนได้รับผลกระทบ Reciprocal Tariff รวมถึงต้นทุนกระดาษและพลังงานลดลงหนุนอัตรากำไร

SCGP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 ที่ 900 ล้านบาท ลดลง 48% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และ พลิกกำไรจากไตรมาสก่อนหน้า ใกล้เคียงฝ่ายวิเคราะห์คาด การลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเพราะการแข่งขันในภูมิภาคที่ยังสูงจาก supply จีนฟื้นตัวส่งให้ความต้องการขำเข้า container board ลดลง 14% จากปีก่อน ฉุดทั้งปริมาณขายและอัตรากำไรของ SCGP 

ส่วนการพลิกมีกำไรจากไตรมาสก่อน เพราะ IPB ปริมาณขายจาก domestic demand รวมถึงต้นทุนกระดาษและถ่านหินลดลง ขณะที่ Fibrous chain ไม่มีปิดซ่อม และธุรกิจ Recycle ไม่มีปรับปรุงต้นทุน

"เราอยู่ระหว่างปรับลดประมาณการกำไรเพื่อสะท้อนผลกระทบของสงครามการค้าที่จะเริ่มกดดันในช่วงครึ่งหลังของปี68"

ลุ้นต้าน 14.70 บาท

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ราคาหุ้นตอบรับเชิงบวก หลังรายงานงบในไตรมาส 1/68 ดีกว่าคาดการณ์ของฝ่ายวิเคราะห์ 28% และดีกว่าคาดการณ์ของตลาด 15%

ทางเทคนิคกำลังขึ้นทดสอบ Downtrend line บริเวณ 14 บาท หากผ่านได้จะเปิด Upside โดยมี MACD ให้สัญญาณ Bullish Divergence สนับสนุน แนวต้านถัดไป 14.70 บาท

Thailand Web Stat