ประเด็นร้อน20พ.ย.

ช่วงนี้ประเทศไทยกำลังเนื้อหอม หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นายบารัก โอบามาเดินทางกลับจากเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว วันนี้นายเวินเจียเป่านายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนจะเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเช่นกัน        

1.วันนี้เวลา 18.15 น. นายพงศ์เทพเทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ตัวแทนรัฐบาลพร้อมคณะ เดินทางไปให้การต้อนรับ นายเวินเจียเป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 20-21 พ.ย.นี้
         
จากนั้นผู้นำจีนจะเดินทางต่อไปยังหอการค้าไทย-จีน อาคาร Thai CC Tower ถนนสาทรใต้ เพื่อหารือกับนักธุรกิจจีนประจำประเทศไทย ก่อนเดินทางเข้าที่พัก
         
2.การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันที่ 20 พ.ย. มีวาระเข้าสู่การพิจารณาคือ เรื่องเปิดประชุมวุฒิสภาในวันที่ 23-24 พ.ย.นี้ ได้หรือไม่ เนื่องจากวันเวลาดังกล่าวตรงกับวันนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ที่ประกาศจะปิดทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา เพื่อกดดันรัฐบาล
         
นอกจากนี้ ต้องจับตาวาระการแต่งตั้งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่คาดว่าจะมีการแต่งตั้งนายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว รองอธิบดีฯ ขึ้นเป็นอธิบดี นอกจากนี้จะมีการเห็นชอบเอ็มโอยูระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนหลายฉบับ กระทรวงการคลังเสนอแก้ไขกฎหมายสถาบันการเงิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ออกพันธบัตรวงเงิน 4,000 ล้านบาท
         
3.ปัญหาเรื่องการประมูลการให้ใบอนุญาตคลื่นความถี่3จี ยังเป็นมหากาพย์ให้ประชาชนต้องติดตามอย่างใกล้ชิดโดยวันที่ 20 พ.ย. เวลา 14.30 น. ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ มีคำสั่งเรียก 3 บริษัท ที่เข้าร่วมประมูล ประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์คบริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค และบริษัท เรียลฟิวเจอร์ เพื่อไต่สวนคดีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นคำร้องขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวให้สั่งระงับการให้ใบอนุญาตใช้ 3จี ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีการจัดประมูลขึ้นเมื่อวันที่16 ต.ค.ที่ผ่านมา
         
4.การประชุมวุฒิสภาวันนี้มีการพิจารณากระทู้ถามด่วนหลายเรื่องแต่เรื่องที่น่าสนใจและเป็นไฮไลต์น่าติดตามคือ เรื่องปัญหาโครงสร้างของหน่วยงานราชการของ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สว.สรรหา สาระสำคัญอยู่ที่การตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลกำลังสร้างภาระงบประมาณจนเกินตัวผ่านโครงการประชานิยมและการตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมาโดยที่ไม่มีการยุบหน่วยงานอื่นๆที่มีภารกิจคาบเกี่ยวกัน ส่งผลให้เกิดการสร้างภาระงบประมาณโดยไม่จำเป็น
         
5.ประเด็นเศรษฐกิจที่น่าสนใจคือ การสัมมนาประจำปีของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ จัดสัมมนาทิศทางเศรษฐกิจ ภายใต้หัวข้อ "กลยุทธ์ธุรกิจไทยฝ่าภัยเศรษฐกิจโลก" โดยนักธุรกิจและนักวิชาการชั้นนำ อาทิ นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล นายณรงค์ชัย อัครเศรณี นายวิชิต สุรพงษ์ชัยเป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและร่วมวิเคราะห์ทุกปรากฏการณ์ที่จะส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลกในอีก 1-3 ปีข้างหน้า เพื่อกำหนดกลยุทธ์ธุรกิจอย่างเหมาะสม ณห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค