posttoday

สำลักเสรีภาพ

09 ธันวาคม 2558

ไม่ว่าจะเป็น “ชนชั้นระดับปัญญา” หรือจะเป็น “มนุษย์ปุถุชน” ธรรมด๊าธรรมดาไม่ได้มีเงินร่ำเรียนจบปริญญามีอุดมการณ์สูงส่งมาก่อน

โดย...ขำ เคืองใจ [email protected]

ไม่ว่าจะเป็น “ชนชั้นระดับปัญญา” หรือจะเป็น “มนุษย์ปุถุชน” ธรรมด๊าธรรมดาไม่ได้มีเงินร่ำเรียนจบปริญญามีอุดมการณ์สูงส่งมาก่อน

ในเมื่อต้องตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ความไม่ปกติของบ้านเมืองพึงมีสติรับรู้ด้วยความห่วงใยได้ว่า เราควรจะสรรค์สร้างบ้านเมืองให้เป็นไปด้วยความสงบได้อย่างไร

เว้นเสียแต่ผู้นั้นขาดสติสัมปชัญญะ หรือพร้อมเป็นเหยื่ออิดโรยให้กลุ่มการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ดึงเป็นเครื่องมือในการเคลื่อนไหว 

ไม่ต้องโหยหวนใฝ่หา “เสรีภาพ” อะไรกันนักดอก เพราะขณะที่บ้านนี้เมืองนี้ถูกปกครองด้วยอำนาจทหาร มีกลุ่มต่างๆ ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการปฏิรูปประเทศบ้าง เรียกร้องปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องของปากท้อง แม้แต่การตั้งกลุ่มตรวจสอบปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นนานาสารพัน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในรัฐบาลทหาร หรือรัฐบาลที่ผ่านมา

กระบวนการเคลื่อนไหวเหล่านี้ถ่ายทอดผ่านสาธารณะชัดเจนระดับฟูลเอชดี (HD) สะท้อนถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หาได้ถูกจำกัดสิทธิที่ควรเป็นแต่อย่างใด ทั้งที่สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ภายใต้การปกครองของทหารแท้ๆ

หนำซ้ำเสียงเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ เหล่านั้น ดังไปถึงรัฐบาลทหารต้องเปิดห้องรับฟังแสวงหาหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันถึงขั้นมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจจนนักประชาธิปไตยงุนงง

ซึ่งดูจะผิดธรรมชาติของคำว่า “อำนาจเผด็จการ” ตามที่เคยสัมผัสกันในอดีต ต้องปิดหูปิดตานักศึกษา ประชาชน สื่อมวลชนไปซะทุกอย่าง แต่สภาวการณ์เยี่ยงนี้ ยิ่งกว่าอภิมหาประชาธิปไตยหรือไม่ก็เผด็จการพิสดาร   

ประเทศนี้ไม่ว่าอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย หรือตกอยู่ภายใต้อำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเป็นไปในลักษณะปกครองผสมผสาน อะลุ่มอล่วยแบบไทยๆ

เราอาจไม่เคยพบเคยเห็นนักปลุกปั่นเผาบ้านเผาเมือง ถูกทหารเชิญไปปรับทัศนคติแต่ไม่เข็ดออกมาเคลื่อนไหวจน คสช. ต้องเชิญตัวไปพูดคุยซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ยังปล่อยตัวออกมาชนิดร่างกายไม่ได้บุบสลาย

บางครั้งพรรคพวกการเมืองยังกระหยิ่มยิ้มย่องนักเคลื่อนไหวเหล่านี้เหมือนกันที่ยังนึกถึงครอบครัว ต้องทำมาหาเลี้ยงชีพบนเส้นทางการเมือง จึงพยายามรักษากลเกมเคลื่อนไหวไม่ให้สุ่มเสี่ยงกับอำนาจทหารไปมากกว่านี้ อีกนัยรักษาน้ำใจซึ่งกันและกัน ฮา...

ก็เห็นจะมีบางกลุ่มอีกนั่นล่ะท่าน ยังคิดว่าการฉกฉวยป้ายชื่อนักศึกษานำไปเคลื่อนไหว ประกาศถึงความมีสิทธิเสรีภาพในการตรวจสอบคอร์รัปชั่น โดยใช้ปัญญาแหลมคมล่อให้เผด็จการเข้ามาควบคุมตัว เพื่อให้สมจริงตามฉากภาพยนตร์ “GANG of Freedom” โด่งดังไปทั่วโลก ชนิดที่เอกอัครราชทูตจากยุโรปแทบจะมอบรางวัลออสการ์ให้

แต่เมื่อผู้คนรู้เท่าทันต่อการเคลื่อนไหว ต่อเสรีภาพสุดๆ จนสำลัก ดูจะไม่ได้ตามเป้าอย่างที่คิด ตรงกันข้ามยิ่งจะสร้างความเบื่อหน่ายให้กับผู้ต้องการแสวงหาความสงบสุขให้กับบ้านเมืองด้วยซ้ำ