ทำกำไรจากทองคำแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วย USD Futures
โดย บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย)
โดย บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย)
ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ (USD/Oz.) เป็นหน่วยของราคาทองคำอ้างอิงที่ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ทั้งในไทยและต่างประเทศคุ้นเคย เป็นหน่วยซื้อขายที่เป็นสากลในตลาดหลักของโลก มีการเผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ หรือตามเว็บไซต์อย่างกว้างขวาง สามารถหาข้อมูลราคา Realtime และราคาย้อนหลังเพื่อประกอบการวิเคราะห์ได้ง่าย สำหรับทองคำในประเทศไทยมีการซื้อขายกันในหน่วย บาทไทย/บาททองคำ ดังนั้นผู้ลงทุนไทยก่อนตัดสินใจซื้อขายทองคำจึงมักจะต้องแปลงราคาทองคำในต่างประเทศด้วยอัตราแลกเปลี่ยนและหน่วยของน้ำหนักเวลาตัดสินใจลงมือซื้อขาย
ที่จริงแล้วผู้ลงทุนที่ซื้อขายทองคำเพื่อทำกำไรในหน่วยของสกุลเงินบาท ถือว่ากำลังแบกรับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะปัจจัยหนึ่งที่กระทบต่อการขึ้นลงของราคาทองคำมีส่วนจากการแข็งค่าหรืออ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐด้วย เวลาที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐมักจะอ่อนค่าลง เวลาที่ทองคำปรับตัวลงลงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมักจะแข็งค่าขึ้น ทำให้บ่อยครั้งที่ผู้ลงทุนที่ซื้อทองคำในสกุลเงินบาทไม่ได้กำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่ควรจะได้
ราคาทองคำขึ้นบาทแข็งได้กำไรไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
กรณีที่ราคาทองคำในตลาดโลกราคาปรับตัวสูงขึ้น พร้อมค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาท จะส่งผลทำให้ราคาทองคำในสกุลเงินบาทไม่ปรับตัวขึ้นหรือปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับราคาทองในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ผู้ลงทุนที่ซื้อทองคำไว้ก็จะได้กำไรน้อยลงเนื่องจากผลของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
ตัวอย่างเช่น ถ้าซื้อทองคำในตลาดต่างประเทศที่ราคา 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ แล้วราคาปรับตัวสูงขึ้นเป็น 1,250 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ผู้ลงทุนทองคำในตลาดต่างประเทศ จะได้กำไรจากราคาทองคำ (1,250 – 1,200) / 1,200 = 4.17% แต่ถ้าซื้อทองคำในประเทศด้วยสกุลเงินบาท ในขณะที่ราคาทองคำในต่างประเทศราคา 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ และอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทกับดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 35.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จะได้ต้นทุนราคาทองคำเท่ากับ 42,000 บาท/ทรอยออนซ์ เมื่อราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเป็น1,250 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ พร้อมกับเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาทที่ 34.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นเป็น 43,125 บาท/ทรอยออนซ์ หรือคิดเป็นเปอร์เซนต์เหลือเพียง (43,125 – 42,000) / 42,000 = 2.68%
ในทางกลับกัน กรณีผู้ลงทุนที่ทำสัญญาขายทองคำล่วงหน้าในหน่วยสกุลเงินบาทก็มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนด้วย ถ้าราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงลง พร้อมกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเทียบกับเงินบาท ก็จะทำให้ผลกำไรที่ควรจะได้ลดน้อยลงด้วยเช่นเดียวกัน
ทำกำไรทองคำให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วย USD Futures
ผู้ลงทุนทองคำในไทยที่ซื้อขายทองคำด้วยสกุลเงินบาท ถ้าต้องการการทำกำไรแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยจะต้องมีการประกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกลุดอลลาร์สหรัฐเทียบกับไทยบาท ซึ่งจากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่ากรณีที่ทองคำราคาปรับตัวสูงขึ้น พร้อมกับค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง จะทำให้กำไรที่ได้น้อยลง ผู้ลงทุนที่ซื้อทองคำด้วยสกุลเงินบาทควรประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างดอลลาร์สหรัฐกับไทยบาทด้วยการทำสัญญาขาย (Short) USD Futures เนื่องจากการทำสัญญาขาย USD Futures จะได้กำไรเมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และในทางกลับกันกรณีที่ผู้ลงทุนขายทองคำล่วงหน้าก็ควรประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนด้วยการทำสัญญาซื้อ (Long) USD Futures เพื่อประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถหาข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายอนุพันธ์ได้จากโบรกเกอร์ที่ท่านใช้บริการ หรือ เว็บไซต์ www.tfex.co.th