ซื้อขาย Futures ให้สบายใจควรเตรียม Margin อย่างไร
โดย บริษัทตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย)
โดย บริษัทตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย)
กลไกในการซื้อขาย Futures ใน TFEX ที่สำคัญที่ผู้ลงทุนทุกคนควรทราบ คือ การซื้อขาย Futures เป็นการทำสัญญาว่าจะซื้อจะขายสินทรัพย์อ้างอิงกันในอนาคต โดยที่ยังไม่ต้องการรับมอบ/ส่งมอบสินค้ากันในทันที ดังนั้นในการทำสัญญาซื้อหรือขาย Futures จะใช้วิธีให้ผู้ทำสัญญาซื้อและผู้ทำสัญญาขายวางหลักประกัน (Margin) ทั้งสองฝ่าย เพื่อเป็นหลักประกันว่าทั้งผู้ที่ทำสัญญาซื้อและผู้ทำสัญญาขายจะไม่บิดพริ้ว ซึ่งมูลค่าของ Margin ที่วางคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับมูลค่าเต็มของสินค้า
ในกรณีที่ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นหรือลง ราคาของ Futures ก็จะมีการปรับตัวขึ้นลงตามราคาของสินทรัพย์อ้างอิงด้วย ซึ่งการปรับตัวขึ้นลงของราคา Futures จะส่งผลให้ผู้ถือสัญญา Futures มีผลกำไรหรือขาดทุนเกิดขึ้น กรณีที่ผู้ลงทุนใน Futures มีสถานะเป็นกำไร ผลของกำไรจะถูกนำไปบวกเพิ่มกับ Margin ที่วางไว้ ส่งผลให้ผู้ลงทุนมี Margin ในบัญชีเพิ่มขึ้น แต่ถ้าผู้ลงทุนมีสถานะเป็นขาดทุน ผลของขาดทุนจะถูกนำไปลบกับ Margin ที่วางไว้ส่งผลให้ผู้ลงทุนมี Margin ในบัญชีลดลง
ถ้าผู้ถือสัญญา Futures เกิดผลขาดทุนเกิดจนทำให้ Margin ในบัญชีลดต่ำลงกว่าระดับเงินประกันขั้นต่ำ (Maintenance Margin: MM) ผู้ลงทุนจะต้องเข้าสู่กระบวนการเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin Call) เพื่อให้ Margin เพิ่มขึ้นอย่างน้อยเท่ากับระดับหลักประกันขั้นต้น (Initial Margin: IM) ซึ่งผู้ลงทุนมีหน้าที่ต้องนำเงินมาวางเพิ่มเป็น Margin ให้ครบจำนวนและทันเวลาตามที่โบรกเกอร์กำหนด หากผู้ลงทุนไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ Margin Call ผู้ลงทุนก็จะต้องเข้ากระบวนการบังคับล้างสถานะ (Force Close)
สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการซื้อขาย Futures ให้สบายใจแบบไม่ต้องกังวลกับกระบวนการ Margin Call ควรวางแผนเพื่อเตรียมเงินประกันสำหรับการซื้อขาย Futures ให้ครอบคลุมผลขาดทุนที่จะเกิดขึ้นไว้ตั้งแต่เริ่มต้นก่อนลงมือซื้อขาย โดยข้อมูลที่ต้องการสำหรับการวางแผนในการเตรียม Margin ต่อ 1 สัญญาสำหรับการซื้อขาย Futures มีทั้งหมด 4 อย่าง ได้แก่ 1) ราคาที่เข้าทำสัญญา 2) ราคาสำหรับการตัดขาดทุน 3) ขนาดของสัญญา Futures และ 4) ระดับเงินประกันขั้นต้น (MM) ต่อสัญญา
ตัวอย่างเช่น ผู้ลงทุนต้องการทำสัญญาซื้อ SET50 Index Futures ที่ราคาปัจจุบัน 900 จุด และได้กำหนดระดับราคาสำหรับตัดขาดทุนไว้ที่ 880 จุด (ถ้าขาดทุน 20 จุดจะทำการล้างสถานะเพื่อตัดขาดทุนทันที) โดยสัญญา SET50 Index Futures มีตัวคูณดัชนีเท่ากับ 200 ดังนั้นมูลค่าสัญญาจะเท่ากับ 900 จุด x 200 = 180,000 บาท ในกรณีที่ผู้ลงทุนต้องตัดขาดทุนจะเกิดผลขาดทุน = (880-900) x 200 = 4,000 บาท ต่อสัญญา สมมิตให้ปัจจุบันระดับเงินประกันขั้นต่ำ (MM) ของ SET50 Idex Futures อยู่ที่ 5,985 บาทต่อสัญญา จากข้อมูลข้างต้นผู้ลงทุนที่ต้องการซื้อขาย SET50 Index Futures โดยไม่ต้องกังวลกับกระบวนการ Margin Call จะต้องเตรียมเงินอย่างน้อยเท่ากับ ระดับเงินประกันขั้นต่ำบวกกับผลของขาดทุนกรณีที่ต้องตัดขาดทุน คือ 5,985 + 4,000 = 9,985 บาท ต่อสัญญา
ข้อดีของการเตรียม Margin สำหรับซื้อขาย Futures ด้วยวิธีนี้ คือ ผู้ลงทุนต้องมีการวางแผนตัดขาดทุนล่วงหน้าเสมอก่อนลงมือซื้อขาย ซึ่งการวางแผนตัดขาดทุนนี้เป็นข้อแนะนำลำดับต้น ๆ ที่มีความสำคัญในกระบวนการบริหารความเสี่ยงและเงินลงทุน (Money Management) อีกด้วย
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถหาข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายอนุพันธ์ได้จากโบรกเกอร์ที่ท่านใช้บริการ หรือ เว็บไซต์ www.tfex.co.th