posttoday

งานช้างของเนวิน

22 มีนาคม 2560

งานช้างสุรินทร์เห็นทีจะต้องชิดซ้ายไปเสียแล้ว เมื่อมาเจองานช้างฯ บุรีรัมย์

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย 

งานช้างสุรินทร์เห็นทีจะต้องชิดซ้ายไปเสียแล้ว เมื่อมาเจองานช้างฯ บุรีรัมย์

และงานช้างฯ ที่ว่า ก็คือการจัดแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบ ระดับโลก โมโต จีพี ที่ จ.บุรีรัมย์ นั่นเอง

วันอังคารหมาดๆ คณะรัฐมนตรีอนุมัติควักเงิน 300 ล้านบาท ให้การกีฬาแห่งประเทศไทย เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโมโต จีพี เป็นเวลา 3 ปี

สำหรับสถานที่แข่งขันคือ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต 

งานนี้จึงต้องฉลอง ไม่เพียงแต่รัฐบาลที่จะได้จัดงานใหญ่ระดับโลกเท่านั้น แต่เจ้าภาพอีกกลุ่มที่เฮไม่แพ้กันนั่นคือ เนวิน ชิดชอบ และมวลมิตร ที่เป็นผู้ถือหุ้นของสนามช้างฯ บุรีรัมย์ ผ่านทาง บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

สนามช้างฯ แห่งนี้ถือเป็นอีกอภิโครงการด้านกีฬาของเนวิน โดยใช้เงินลงทุนถึง 2,000 ล้านบาท สร้างสนามแข่งรถระดับมาตรฐานโลก บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ จุผู้ชมได้ 5 หมื่นคน ภายในสนามจะมีโรงแรมบริการตั้งแต่ระดับ 3 ดาว คือ Bric Box Hotel และจะมีระดับ 5 ดาวไว้บริการแขกที่มาพัก

ที่ตั้งสนามช้างฯ ก็อยู่ข้างๆ สนามฟุตบอลไอโมบาย สเตเดียม ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นั่นแหละ

เป็นธุรกิจครบวงจร สปอร์ต คอมเพล็กซ์  เป็นไปตามฝันและวิชั่นของเนวินที่ต้องการให้บุรีรัมย์เป็นสปอร์ต ซิตี้ ที่ดีสุดของประเทศ

สนามช้างฯ ประเดิมด้วยการจัดแข่งความเร็วหลายประเภท อาทิ  ซูเปอร์ จีที ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์ ซูเปอร์คาร์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย การแข่งขัน เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ ฯลฯ แต่การเป็นเจ้าภาพแข่งขัน โมโต จีพี จะทำให้สนามแห่งนี้ติดอันดับสนามระดับโลก 

สำหรับการจัดการแข่งขันโมโต จีพี จะเสียค่าลิขสิทธิ์ 1,200 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี โดยรัฐบาลควักจ่าย 300 ล้านบาท ขณะที่ฝั่งเนวินและคณะต้องไปหาเงินอีก 900 ล้านบาท

แต่มองแล้วทุกอย่างน่าจะผ่านไฟเขียว ทั้งเรื่องเงิน ทั้งเรื่องสถานที่ โดยขั้นตอนต่อไปก็คือการแจ้งยืนยันไปยังบริษัท ดอร์น่า สปอร์ต ในการเป็นเจ้าภาพแข่งขันโมโต จีพี

ส่วนงานช้างฯ บุรีรัมย์ใครได้ ใครเสีย ก็คงสุดแล้วแต่จะมอง

ด้านหนึ่งก็เหมือนว่า ทำไมรัฐบาลต้องไปลงทุนให้เอกชน

แต่อีกด้านก็มองไปคล้ายๆ กับการลงขัน

ที่รัฐบาลควักจ่าย 300 ล้าน ก็ยกเหตุผลเรื่องการท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาไทยมหาศาล โดยการแข่งขันจะมีผู้ชมในสนามถึง  5 หมื่นคน ที่จะเข้ามากิน เที่ยว สารพัด

นอกจากนั้น ยังจะมีการถ่ายทอดสดไปให้คนดูอีกทั่วโลก เป็นตามนโยบายที่เรียกว่า สปอร์ต ทัวริซึ่ม หรือท่องเที่ยวเชิงกีฬา

ขณะเดียวกัน ฝ่ายภาคเอกชนก็จะได้รายได้จากการแข่งขัน รายได้จากค่าสปอนเซอร์ ฯลฯ แลกกับการลงทุนรับความเสี่ยง

ที่มาและขนาดมหึมาของธุรกิจ ถ้าไม่เรียกว่าเป็นระดับงานช้างฯ บุรีรัมย์ ก็คงไม่ได้แล้ว

ประเภทเล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ต้องเนวิน