เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่
เป็นเรื่องคนละเรื่องกัน แต่บังเอิญเอามากๆ ที่กลายเป็นเรื่องเดียวกันอย่างไม่น่าเชื่อ
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
เป็นเรื่องคนละเรื่องกัน แต่บังเอิญเอามากๆ ที่กลายเป็นเรื่องเดียวกันอย่างไม่น่าเชื่อ
เรื่องแรก พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหน่วยให้ยึดถือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติหน้าที่
เพราะความพยายามของรัฐบาลทั้งการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจังในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้อันดับความโปร่งใสของไทยจากการประเมินขององค์กรต่างๆ ดีขึ้น
คะแนนการประเมินของแต่ละองค์กรมาจากทั้งสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการและมุมมองของคนทั่วไป โดยเฉพาะนักธุรกิจที่ต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งมีหลายเรื่องที่ประสบความสำเร็จ เช่น การออกกฎหมายจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริต การลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทุจริตอย่างเด็ดขาด การป้องกันไม่ให้มีการให้หรือรับสินบน การลงนามสัญญาคุณธรรมในโครงการลงทุนขนาดใหญ่
ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันเป็นหูเป็นตา ไม่ปล่อยให้เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องธรรมดา โดยสังคมมีความคาดหวังอย่างมากว่า ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐจะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง
นี่แหละ คือเรื่องแรกที่นายกฯ ย้ำให้ข้าราชการมีความซื่อสัตย์สุจริต
พอพูดไปไม่ทันเสร็จ ในวันเดียวกันก็มีเรื่องที่ 2 เกิดขึ้นทันที
นั่นคือ วิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตแกนนำ กปปส. ออกมาเปิดโปงว่าการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจตั้งแต่ระดับรองผู้บังคับการ ผู้กำกับการ รอง
ผู้กำกับการ และสารวัตร มีการจ่ายเงินกันและกลับไม่ได้ตำแหน่ง
ราคาเก้าอี้ของวงการสีกากีเพิ่มสูงมาก ระดับผู้กำกับการ 5-7 ล้านบาท ระดับสารวัตร 1.5-2 ล้านบาท เป็นราคาตั๋วเด็ก
ทั้งหมด วิทยา กล่าวว่าต้องหาทางแก้ไข ไม่เช่นนั้นคนที่ทำงานจริงจังหมดกำลังใจ
นอกจากนั้น ตำรวจที่ใช้เงินไปต้องไปหาเงินกลับมาชดใช้หนี้ที่ได้ก่อไว้ การปฏิรูปตำรวจตามรัฐธรรมนูญจึงควรต้องเร่งไปทางใดทางหนึ่งในการหยุดวิธีการกินเลือดกินเนื้อกันเองในวงการตำรวจ
วิทยาย้ำว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง แต่จะถามเอาใครมาเป็นพยานคงลำบาก เพราะทั้งคนให้ คนรับ ผิดกฎหมายทั้งคู่
อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลพร้อมกันให้ตำรวจที่ซื้อเก้าอี้เป็นพยาน ถ้าอยากทวงเงินคืนนั้น และ พล.อ.ประยุทธ์ เปิดทางให้ ก็พร้อมที่จะเป็นคนกลางพานายตำรวจเหล่านี้ไปพบ ทวงเงินจากคนเรียกร้องเงินไปด้วย
นี่คือเรื่องที่ 2 ที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน
มันแปลกจริงๆ ที่เรื่องแรกนายกฯ ขอให้ข้าราชการทำงานด้วยความสุจริต แต่เรื่องที่ 2 กลับมีการแฉโพยการเปิดซื้อ-ขายตำแหน่งนายตำรวจ
ความจริงแล้ว เก้าอี้สีกากีมีข่าวการวิ่งเต้นใช้เงินใช้ทองตลอด ทว่างวดนี้มีคนพูดชัด พร้อมกับบอกว่า พร้อมเสนอเงื่อนไขการพาตำรวจที่จ่ายเงินไปแล้วเข้าหานายกฯ ด้วย
แล้วลุงตู่จะว่าอย่างไร
เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่