posttoday

คนไทยก็สร้างนวัตกรรมให้โลกได้ แค่ ‘เลิกรอ’

18 มกราคม 2566

ในฐานะสตาร์ทอัพ ที่เดินอยู่บนสาย WealthTech มาเกือบ 11 ปี จึงขอแบ่งปันความเชื่อมั่นและพลังใจมายังทุกคน หากสิ่งใดที่คิดมาดีแล้ว ขอให้ถือว่าปีใหม่นี้คือ ‘ฤกษ์ดี’ ที่จะ ‘เลิกรอ’ แล้วลงมือทำ เพราะเชื่อในความเก่งและฝีมือของคนไทยที่ไม่น้อยหน้าคนชาติใดในโลก

สวัสดีปีใหม่คุณผู้อ่านโพสต์ทูเดย์ทุกท่านนะครับ 

 

เชื่อว่าในปีใหม่นี้ หลายท่านอาจจะมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ อยากทำธุรกิจใหม่ อยากพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ให้ลูกค้า บางท่านคิดใหญ่อยากให้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เรามีอยู่ Change the world ให้ได้ใช่ไหมละครับ 

 

ผมเองในฐานะสตาร์ทอัพที่เดินอยู่บนสาย WealthTech มาย่างเข้าปีที่ 11 แล้ว ขอแบ่งปันความเชื่อมั่นและพลังใจมายังทุกท่าน สิ่งใดที่คิดมาดีแล้ว ขอให้ถือว่าปีใหม่นี้คือ ‘ฤกษ์ดี’ ที่จะ ‘เลิกรอ’ แล้วลงมือทำในปีใหม่นี้ ผมเชื่อในความเก่งและฝีมือของคนไทยที่ไม่น้อยหน้าคนชาติใดในโลกครับ 

 

เช่นเดียวกับแคมเปญการลงทุนของจิตตะ เวลธ์ในเวลานี้ ‘ฤกษ์ที่ดีคือเลิกรอ’ นั้นไม่ได้จำกัดแค่เรื่องลงทุนนะครับ เรื่องที่เราคิดจะลงมือทำก็มีฤกษ์ที่ดีเช่นเดียวกันคือเลิกรอแล้วลงมือทำนะครับ 

 

เพราะหากเรามีไอเดียดี ๆ มุ่งมั่นที่จะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยแก้ปัญหาหรือ pain point ที่เคยเจอกับตัวเอง เพื่อเป้าหมายในการช่วยให้ผู้อื่นมีชีวิตที่ดีขึ้น อยากคิดการใหญ่ แต่ไม่เริ่มลงมือทำ ทุกอย่างก็เท่ากับศูนย์ ไม่มีค่าอะไรนะครับ เพราะฉะนั้นการลงมือทำแม้จะเป็นจุดเล็กๆ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด 

 

ผมขอย้ำเรื่องนี้จากประสบการณ์ที่คลุกคลีในองค์กรเทคฯ มาตลอดชีวิต

 

‘เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก’ สร้างโอกาสที่ไร้พรมแดน

 

ทุกวันนี้เราปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกในทุกวันนี้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี แทรกซึมไปแทบทุกอณูการใช้ชีวิต เป็นเทรนด์หนึ่งที่เราต้องยอมรับคือ ‘เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก’  พลังของเทคโนโลยีที่เราเห็นได้ชัดในเวลานี้คือการทำลายขอบเขต กำแพงและพรมแดนระหว่างกัน ด้วยเทคโนโลยีที่สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงโลกทั้งใบได้อย่างไร้รอยต่อ โดยมีนวัตกรรมที่เป็นตัวเร่งให้การเปลี่ยนแปลงทุกวันนี้เป็นแบบติดจรวด ไปแบบ Exponential (10x) เลยทีเดียวจริงไหมครับ 

 

ทุกวันนี้เราสามารถเข้าถึงข้อมูล หรือสื่อสารกับเพื่อนได้รอบโลก สร้างนวัตกรรมและโอกาสทางธุรกิจรวมถึงการลงทุนใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นได้มากมายในโลกที่ไร้พรมแดนนี้   

 

แต่น่าเสียดายที่คนไทยส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ใช้เทคโนโลยีมากกว่าที่จะเป็นผู้สร้างหรือผลิตเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้โลกยอมรับ ที่น่าเสียดายไปกว่านั้นคือคนไทยไม่เชื่อว่าคนไทยทำได้ หรืออีกมุมคือไม่เชื่อมั่นในตัวคนไทยเอง ทั้งที่ผมเชื่อว่าคนไทยมีความสามารถที่ล้นเหลือ

 

แต่ที่เรายังไปอยู่บนเวทีโลกไม่ได้เพราะเรามี ‘โซ่ตรวนทางความคิด’ ผูกเราไว้อยู่ว่า ‘คนไทยทำไม่ได้’  

 

ในขณะที่เทคโนโลยีได้ทำลายกำแพงเขตกั้นโลกใบนี้ไปแล้ว แต่ทำไมคนไทยกลับสร้างกำแพงในใจตัวเองอยู่ล่ะครับ? 
ปลดโซ่ตรวนทางความคิดแล้วสร้างฝันอันยิ่งใหญ่กันเถอะครับ


Think Big Start small และ Learn Fast  


คุณอาจจะไม่รู้ หรือรู้แต่หลงลืมไปว่า ผู้สร้างนวัตกรรมระดับโลก เริ่มต้นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของเค้าจาก ‘โรงรถ’ ไม่ว่าจะเป็นสตีฟ จอบส์ ผู้ให้กำเนิด Apple หรือ iPhone ที่เราใช้ๆ กันอยู่ หรือแม้กระทั่งผู้สร้างอาณาจักร Google อย่างแลร์รี เพจ ต่างก็เริ่มธุรกิจจากโรงรถเล็กๆ เช่นเดียวกับมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ที่เริ่มต้นสร้าง Facebook จากห้องพักในฮาร์วาร์ด ทุกคนเริ่มจากจุดเล็กๆ กว่าจะก้าวมาสู่จุดที่ยิ่งใหญ่เช่นทุกวันนี้

 
เมื่อปักหมุดหมายและลงมือทำ หนึ่งหัวใจสำคัญที่เราต้องมีคือ Learn Fast เรียนรู้ให้เร็วที่สุด เพราะโลกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว 
 

แต่ในความรวดเร็วนั้น ภายในใจต้องมีสติ ตั้งใจ และเรียนรู้ให้เร็ว เพื่อนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ในสิ่งที่เราต้องทำ และเลือกที่จะตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นหรือไม่ก่อประโยชน์กับงานตรงหน้าออกไป

 

ความรู้ก็บูดได้ หมั่นเปิดใจ Unlearn หรือ Relearn

 

ขณะเดียวกันใครที่มีความรู้อยู่แล้วก็อย่าประมาท เพราะความเชี่ยวชาญที่เราเคยมีเคยใช้ได้สัมฤทธิ์ผลในอดีต แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมาก ความรู้เหล่านั้นอาจจะไม่ทันสถานการณ์ (obsolete) แล้วก็ได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการเปิดใจที่จะ  Unlearn หรือ Relearn เรื่องใหม่ๆ ที่เข้ามาอยู่เสมอ 

 

และหากคุณอยู่ในองค์กรเทคฯ ผมอยากแนะนำว่าต้อง Think Big คิดให้ใหญ่อย่าง 10x เพราะโลกเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ต้องคิดให้เหมือน Moonshot Thinking ทำในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อจะเกิดขึ้นได้ ว่ามนุษย์จะขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ ซึ่งกว่าที่จะ Apollo11 จะประสบความสำเร็จได้

 

แปลว่าต้องมีความล้มเหลวของ Apollo1-10 อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ อีกสิ่งที่คุณควรรู้คือนวัตกรรมมาพร้อมกับความล้มเหลว เมื่อคิดจะสร้างสิ่งใหม่ หากไม่เคยล้มเหลวเลย คุณจะสร้างนวัตกรรมไม่ได้ ดังนั้น Fail Fast ,Fail Forward ล้มแล้วรีบเรียนรู้ เพื่อลุกให้เร็ว 

 

เหมือนที่จิตตะดอทคอมและจิตตะ เวลธ์ พวกเราอยากเป็นคนไทยตัวเล็ก ๆ แต่สร้างเทคโนโลยีที่ Change the world เปลี่ยนโลกให้คนสามารถเข้าถึงการลงทุน และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

 

แล้วครั้งหน้าผมจะมาแบ่งปันเรื่องราวและบทเรียนที่สตาร์ทอัพอย่างเราเคยเจอ เรียนรู้ และต่อสู้ในโลก WealthTech ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ในแง่มุมต่าง ๆ ให้คุณผู้อ่าน ได้มีแรงบันดาลใจในเส้นทางที่ต้องการมุ่งไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อย่างที่พวกเราทุกคนมีความฝันไว้นะครับ 

 

โดย : ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth