“ห้างตั้งฮั่วเส็ง”ในอุ้งมือ ”มานัสลอยฟ้า-สารวัตร ซัว”
ปิดฉาก “ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง” เมื่อตรวจสอบพบทีมนายทุนใหม่ สัมพันธ์ลึกธุรกิจใต้ดิน ในอาณาจักรของ “ดาบมานัส ลอยฟ้า-สารวัตร ซัว-VP”
กลิ่นพิลึกคลุ้งไปทั่วห้างตั้งฮั่วเส็ง เมื่อตรวจสอบพบทีมนายทุนใหม่ที่ประมูลซื้อไป 900 ล้านบาทเศษ ในนาม บริษัท เอ็มวีพี โฮลดิ้งฯ สัมพันธ์ลึกธุรกิจใต้ดิน ในอาณาจักรของ “ดาบมานัส ลอยฟ้า-สารวัตร ซัว-VP” บุคคลชื่อกระฉ่อนในนครบาล
ปิดฉากห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ริมถนนสิรินธร เขตบางพลัด กทม.ผู้นำในการขายเครื่องเย็บปักถักร้อย เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า ที่ “เสี่ยอุดม จุนประทีปทอง” พี่ชายคนโตของตระกูลได้สร้างขึ้นมาในปี 2505 ก่อนขยายสาขาจากห้องแถว 15-20 คูหา มาเป็นตึกสูงใหญ่ พร้อมอาคารจอดรถ 800 คัน ในรุ่น “วิโรจน์ จุนประทีปทอง”ลูกชายคนโตของเสี่ยอุดมไปเรียบร้อยแล้ว
แต่ที่เป็นข้อกังขาใหญ่ คือ เจ้าของใหม่ บริษัท เอ็มวีพี โฮลดิ้ง จำกัด “ที่ฟักตัว ซ่อนกาย” ซุ่มเงียบประมูลทรัพย์สินจากกรมบังคับคดี ช่วงเมษายน-สิงหาคม 2567 ในราคา 900-910 ล้านบาท เขาเป็นใคร?...และจะเปลี่ยนตั้งฮั่วเส็งอย่างไร?
มีความพยายามชี้แจงว่า เจ้าของใหม่ คือ บริษัท เอ็มพีวี โฮลดิ้ง จำกัด ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ และเป็นเจ้าของ “ตลาดสดไชยทิศ” เลียบทางรถไฟตลิ่งชัน
แต่...ใช่หรือ?!!
ข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท เอ็มพีวี โฮลดิ้ง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท มีคณะกรรมการบริษัทแค่ 3 คน
1.นายมานัส เติมธนะศักดิ์ ซึ่งถือหุ้นอยู่ 20,000 หุ้น (40%) มูลค่าหุ้น 2,000,000 บาท
2.นายวิชา พร้อมเพรียงชัย ซึ่งถือหุ้นอยู่ 15,000 หุ้น (30%) มูลค่าหุ้น 1,500,000 บาท
3.นายพิสิทธิ์ กาญจนชูศักดิ์ ซึ่งถือหุ้นอยู่ 15,000 หุ้น (30%) มูลค่าหุ้น 1,500,000 บาท
อ้าว!!! ถ้าเป็นเช่นนี้ บริษัท เอ็มวีพีฯ คงไม่ใช่ผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริทรัพย์ และเจ้าของตลาดไชยทิศเสียแล้วละสิพี่น้อง!!!
เพราะเพิ่งจะจัดตั้งขึ้นมาในวันที่ 23 เมษายน 2567 นี่เอง จะคร่ำหวอดและเป็นเจ้าของตลาดได้อย่างไร ยกเว้น ผู้ถือหุ้น จะเป็นผู้คร่ำหวอดเท่านั้น!
พอไปตรวจสอบผู้ถือหุ้นบริษัท เอ็มวีพี ฯ ก็ตกตะลึงพรึงเพริศ ตาสว่าง ในทันที
คนที่1 มิสเตอร์“M” นายมานัส เติมธนะศักดิ์ เป็นเจ้าของผู้บริหารบริษัท ในหัว กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารตลาดไชยทิศ บนเนื้อที่ 16 ไร่ ริมทางรถไฟตลิ่งชัน เขตบางกอกน้อย โดยใช้เงินลงทุน 500 ล้านบาท
ตลาดไชยทิศ เป็นตลาดขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนทำเลของการเดินทางในอนาคต ถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน เป็นถนนเลี่ยงการจราจรจากเส้นถนนบรมราชชนนี ทะลุผ่านถนนราชพฤกษ์ เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT บางขุนนนท์ และสถานีตลิ่งชัน รถไฟฟ้าสายสีแดงไปยังสถานีกลางบางซื่อ
อะแฮ่ม....ถ้าไม่ผิดพลาด ตลาดไชยทิศ นั้น “ร.ต.ท. มานัส เติมธนะศักดิ์” เป็นประธานกรรมการบริหาร และผู้บริหาร บริษัท ในหัว กรุ๊ป จำกัด มิใช่นายมานัส เติมธนะศักดิ์ เด็ดขาด
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566 นายมานัส เติมธนะศักดิ์ ผู้บริหารตลาดไชยทิศ ได้มอบเงิน 1 ล้านบาทแก่โรงพยาบาลสงฆ์เพื่อเป็นค่าภัตตาหารแด่พระภิกษุอาพาธ เวชภัณฑ์ ค่าโลหิต ค่าน้ำ และค่าไฟฟ้าในโรงพยาบาลสงฆ์
อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ชื่อของ นายมานัส เติมธนะศักดิ์ ไปซ้ำกันกับ “ดาบมานัส” หรือ “ร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์” อดีตรองสารวัตร (สืบสวน) กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ชื่อกระฉ่อนที่เกี่ยวพันกับ “บ่อนลอยฟ้า-บ่อนพนันอมตะ” ในพื้นที่นครบาล
เหนือกว่านั้นกลับมีชื่อนายมานัส เติมธนะศักดิ์ ชื่อเดียวเท่านั้น ที่อยู่ในฐานข้อมูลของคนเดียวกันในทะเบียนราษฎร์ ซึ่งตามปกติ หากมีชื่อ นายมานัส เติมธนะศักดิ์ คนที่สองจริง ข้อมูลจะปรากฏอยู่ในทะเบียนราษฎร์
รับรู้กันในวงการตำรวจ นักพนันว่า บ่อยลอยฟ้า จะมีการส่งสัญญาณเปิดเล่นกันในยามที่ตำรวจ ”หัวส่าย หางกระดิก” ย่านอาคารปิ่นเกล้าคอนโดมิเนียม ซอยโรงพยาบาลเจ้าพระเยา ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอมรินทร์ กรุงเทพมหานคร ถือเป็นแหล่งรวบรวมผู้นิยมชมชอบเล่นได้เสีย “ระดับวีไอพี” มานานนับสิบปี
ยุค พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็น จเรตำรวจแห่งชาติ ทำเรื่องเสนอ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.เพื่อให้ “ด.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์” ในเวลานั้นสังกัด ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ ที่ถูกระบุเป็นเจ้าของบ่อน “ให้ออกจากราชการไว้ก่อน”
สำหรับ ร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์ นั้น ชื่อกระฉ่อนในวงการตำรวจและเซียนพนัน โด่งดังในแวดวงนครบาลอย่างมาก โดยเมื่อวันที่ 20 ก.พ.2561 มีคลิปภาพ “ร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์” รองสารวัตรสืบสวนกองกำกับการ 4 กองบังคับตำรวจสันติบาล 1 แจกอั่งเปาตำรวจที่เข้าแถวกันยาวเหยียดถูกนำออกมาเผยแพร่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน
มีผู้ระบุว่า ชายคนนี้คือ “อ้วน ลอยฟ้า” เซียนพระชื่อดัง เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด คุณพระคุ้มครอง หรือ ร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์
ขณะที่ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในขณะนั้น ยืนยันว่า อ้วน ลอยฟ้า ที่นำกระเช้ามาอวยพรปีใหม่ตัวเองเป็นคนละคนกับ ร.ต.ต.มานัส
เป็นไปได้อย่างไร ที่ “คนชื่อ-สกุลเดียวกัน” ที่อยู่ในระบบข้อมูลทะเบียนราษฎร์กลับมีแค่บุคคลคนเดียวกัน คนหนึ่งเป็นเซียนพระ คนหนึ่งเป็นจ่ามนัส ลอยฟ้า ชื่อ ร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์
จากฐานข้อมูลพบว่า ร.ต.ต.มานัส เกิดปี 2507 ปัจจุบัน 53 ปี ขอทำบัตรประชาชนครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556 ที่เขตทวีวัฒนา
ขณะที่แวดวงเซียนพนันกรุงเทพมหานครยืนยันว่า “ดาบมานัส” นั้น คนทั่วไปก็เรียกว่า อ้วน ลอยฟ้า
ยิ่งเมื่อตรวจสอบลึกลงไปในผู้ถือหุ้นบริษัท เอ็มวีพีฯ แล้วก็ตกใจแทบตกเก้าอี้ เมื่อพบว่า มิสเตอร์ M-“มานัส เติมธนะศักดิ์” นอกจากมีส่วนพัวพันกับ “ดาบมานัส-ร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์” บ่อนลอยฟ้าย่านปิ่นเกล้าแล้ว ยังมีส่วนเกี่ยวพันไปยัง “สารวัตรซัว-พ.ต.ท.วสวัสติ์ มุครสกุล” สารวัตรกองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง เจ้าของอาณาจักร “เป็นต่อ กรุ๊ป” ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ใหญ่ที่สุดในประเทศ “มาเก๊า 888” จนถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน
มิสเตอร์ M-“มานัส เติมธนะศักดิ์” เข้าไปเกี่ยวพันกับ “สารวัตร ซัว” อดีตนายทหารเรือที่โอนย้ายมาเป็นตำรวจและเกี่ยวพันกับการพนันออนไลน์รายใหญ่ ที่ไหน....โปรดพิจารณา
เข้าไปเกี่ยวพันใน “บริษัท ในหัว กรุ๊ป จำกัด” จดทะเบียนเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2555 ทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 777 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจการบริการให้เช่าพื้นที่ และค่าไฟฟ้า-น้ำประปา
ปรากฏชื่อกรรมการ 2 คน 1. นายมานัส เติมธนะศักดิ์ 2.นายวสวัตติ์ มุครสกุล หรือสารวัตร ซัว
นายมานัส เติมธนะศักดิ์ ถือหุ้นใหญ่ 50% เท่ากับ “สารวัตร ซัว”นายวสวัตติ์ มุครสกุล ที่ถือหุ้น 50% เช่นกัน (มูลค่า 99,999,900 บาท) มีนายภาคภูมิ เติมธนะศักดิ์ ผู้เป็นลูกชายนายมานัส ถือหุ้นอีก 0.0001%
งบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 2,049,061 บาท รายจ่ายรวม 17,950,974 บาท ขาดทุนสุทธิ 15,901,912 บาท
มิสเตอร์ M-“มานัส เติมธนะศักดิ์” เข้าไปเกี่ยวพันกับ “สารวัตร ซัว” ในบริษัท ในหัว เทรดดิ้ง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2564 ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 777/2 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจขายส่ง ขายปลีก ถุงพลาสติก ถุงใส่อาหาร ถุงหูหิ้วและถุงชนิดอื่นๆทุกประเภท
ปรากฏชื่อกรรมการ 2 คน 1. นายมานัส เติมธนะศักดิ์ 2.นายวสวัตติ์ มุครสกุล หรือสารวัตร ซัว
นายวสวัตติ์ มุครสกุล หรือสารวัตรซัว ถือหุ้นใหญ่สุด 50% (มูลค่า 625,000 บาท)
นายมานัส เติมธนะศักดิ์ ถือหุ้นรองลงมา 49.998%
นายภาคภูมิ เติมธนะศักดิ์ ผู้เป็นบุตรชายถือหุ้น 0.002%
งบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 1,327,346 บาท รายจ่ายรวม 1,388,112 บาท ขาดทุนสุทธิ 60,765 บาท
ผู้ถือหุ้นในบริษัท เอ็มวีพี โฮลดิ้ง จำกัด รายที่สองคือ มิสเตอร์“V” นายวิชา พร้อมเพรียงชัย เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท บัณฑิต กรุ๊ป ทำธุรกิจจากการเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างสู่อสังหาริมทรัพย์ย่านศาลายา ในโครงการ วี คอนโด ศาลายา มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างกว่า 24 แห่ง มูลค่าหุ้นรวมกว่า 443 ล้านบาท โดยเน้นธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าและพัฒนาที่อยู่อาศัย
บริษัทที่มีมูลค่าหุ้นสูงสุด ได้แก่ บัณฑิต อพาร์ทเม้นท์ 2 จำกัด มูลค่า 92 ล้านบาท บริษัท พร้อมเพรียงชัย ก่อสร้าง จำกัด มูลค่า 57 ล้านบาท บริษัท บัณฑิต พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัท บัณฑิต อพาร์ทเม้นท์ 3 จำกัด และ บริษัท ทรี เรียล เอสเตท จำกัด
ผู้ถือหุ้นในบริษัท เอ็มวีพี โฮลดิ้ง จำกัด รายที่สาม คือ มิสเตอร์“P” นายพิสิทธิ์ กาญจนชูศักดิ์ เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ตงจั่น ผู้ผลิตแป้งมันและสาคูยี่ห้อดัง อีกทั้งยังเป็นพี่น้องกับนางสาวอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ อดีต สก.กทม., อดีต ส.ส., อดีตกรรมการบริหาร พรรคประชาธิปัตย์
ต้องจับตาว่าการเข้าเป็นเจ้าของตั้งฮั่วเส็งของกลุ่มนักลงทุนในนาม บริษัท เอ็มวีพี โฮลดิ้ง จำกัด จะทำให้สภาพของห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ในกรุงเทพมหานครจะไปทางไหน
แต่แค่เห็นความเกี่ยวพันในโครงข่ายเท่านั้น....บอกได้คำเดียวว่า น่าเสียวไส้ที่สุด...
ไม่รู้ว่าหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จะหามือที่ไหนไป “ปิดหู-ปิดตา-ปิดจมูก”!!!