เรื่องของพ่อ! กับตำแหน่งบิ๊กกระทรวงการคลัง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเป็นลูกชายของพ่อที่ชื่อ ปลอดประสพ มีแต้มต่อในการก้าวสู่ตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร ปิ่นสาย จึงต้องขอบคุณพ่อ การขยับขึ้นครั้งนี้ยังทำให้เส้นทางสู่เก้าอี้ปลัดคลังในอนาคต ย่อมไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป..
การเลื่อนขั้น ปิ่นสาย สุรัสวดี จากรองปลัดกระทรวง ขึ้นเป็นอธิบดีกรมสรรพากร พร้อมๆ กับการลดชั้น เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ จากอธิบดีกรมสรรพสามิต ไปเป็นอธิบดีกรมธนารักษ์ สร้างความฮือฮาในกระทรวงริมคลองประปาก็จริง ทว่าไม่ถึงกับเกินคาด
เมื่อเปลี่ยนแผ่นดินก็ต้องเปลี่ยนขุนนาง เป็นขุนนางที่นามสกุลใหญ่ แต่แยกเหล่าแยกกอ...
ทันทีที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโผโยกย้ายข้าราชการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏชื่ออธิบดีกรมสรรพากรคนใหม่ ใครๆ ก็ต้องตั้งคำถามว่าทำไมต้องเป็น ปิ่นสาย เพราะหากมองถึงผลงาน ความอาวุโส กระทั่งบารมีในกระทรวงที่ผ่านมา นอกจากการเป็นลูกหม้อกรมสรรพากรแล้ว ยังไม่เห็นคุณสมบัติที่ชัดเจนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นอธิบดีกรมจัดเก็บเบอร์ 1 ของกระทรวง
กระทั่งโฟกัสไปที่นามสกุล สุรัสวดี ภาพ ปลอดประสพ ก็ลอยมาแต่ไกล นั่นคือคำตอบ...
ความเหมือนที่แตกต่างในการตั้งผู้บริหารในกระทรวงวายุภักษ์ เมื่อครั้งปรากฏชื่อเสนาบดีคลังที่ชื่อ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ครั้งนั้นก็ปรากฏหน้าคุณพ่อ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง ขึ้นมาเช่นกัน
แม้กรณี จุลพันธ์ คือตำแหน่งทางการเมือง ส่วน ปิ่นสาย เป็นข้าราชการ แต่การส่งทายาททางการเมืองเข้าไปนั่งเก้าอี้ที่เป็นแก่นแกนของประเทศ โดยที่ยังไม่ได้พิสูจน์ผลงานที่ชัดเจน สะท้อนวิธีคิดของผู้มีอำนาจ ทำให้อดนึกถึงพ่อของผู้นำประเทศไม่ได้!
ข้อดีคือสามารถไว้วางใจคนของตนเอง แต่ผลข้างเคียงคือการบั่นทอนข้าราชการที่ทำหน้าที่ด้วยความรู้ความสามารถ ถ้าไม่มีแบ็คจากฝ่ายการเมือง ปลายทางเป็นได้เพียงลูกไล่
การวางมาตรฐานเช่นนี้ในกระทรวงการคลัง เป็นการลดมาตรฐานของกระทรวงเกรดเอ ที่มีหน้าที่บริหารการจัดเก็บรายได้ บริหารด้านการเงิน หนี้สาธารณะและทรัพย์สินของประเทศ นี่คือกระทรวงอันดับ 1 ใน 20 กระทรวง หากถูกกำหนดกรอบการทำงานให้ปรับตัวเข้าหานักการเมืองมากเกิน จะส่งผลต่อการทำภารกิจหลัก
ยิ่งกว่านั้นปัญหาทุจริตคอรัปชั่นจึงยังเป็นกับดักในการพัฒนาประเทศ ให้ติดหล่มหลุมดำไปอีกยาวนาน...
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเป็นลูกชายคนโตของพ่อที่ชื่อ ปลอดประสพ ได้รับโอกาสแบบมีแต้มต่อ การก้าวสู่ตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากรครั้งนี้ ปิ่นสาย จึงต้องขอบคุณพ่อ การขึ้นเป็นอธิบดีกรมสรรพากรด้วยวัย 53 ขวบ ทำให้เส้นทางการก้าวสู่เก้าอี้ปลัดคลังในอนาคต ย่อมไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ขณะเดียวกั้น นับเป็นความท้าทายของ ปิ่นสาย จึงจำเป็นต้องทำงานหนักอีกเท่าตัว เพื่อพิสูจน์ให้คนกระทรวงการคลังยอมรับว่ามีฝีมือมากกว่าอาศัยบารมีพ่อ!!
ปิ่นสาย จบการศึกษาปริญญาโท Master of Science in Economics จาก University of Glasgow สกอตแลนด์ มีน้องชายรับราชการอยู่ที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)
เมื่อมองไปที่งานหลักของกรมสรรพากรคือการจัดเก็บภาษี ล่าสุดจากเป้าหมาย 2.28 ล้านล้านบาท ภายใต้การกำกับดูแลของ กุลยา ตันติเตมิท พบว่า 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ (ต.ค.2566-ส.ค.2567) จัดเก็บภาษีได้แล้ว 1.96 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการเอกสารงบประมาณ 8,482 ล้านบาท หรือ 0.4% และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 47,911 ล้านบาท หรือกว่า 2.5% จึงไม่ใช่เรื่องยาก
ทว่า กรมสรรพากรคือกำลังหลักในการจัดเก็บภาษีของกระทรวงฯ จึงต้องทำให้เกินเป้าหมาย หมายถึงยิ่งมากยิ่งดี เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์
สำหรับความเป็นกระทรวงการคลัง องค์กรหลักของชาติ มีข่าวดีจะครบรอบ 150 ปี ในวันที่ 1 เม.ย.2568 วันนี้กรมธนารักษ์กำลังผลิตเหรียญ เพื่อจัดสรรให้ประชาชนเป็นที่ระลึกด้วยความภาคภูมิใจ และจะเป็นปีที่คึกคัก
สำนวน Whatever has happened, it's good enough หรือ สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นย่อมดีเสมอ หวังว่าผู้บริหารกระทรวงการคลังทั้งที่อยู่ในตำแหน่งเดิม และที่ถูกปรับย้ายใหม่ทั้ง 9 คน จะทำหน้าที่อย่างโปร่งใส ขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน มากกว่ามุ่งภารกิจตอบแทนบุญคุณ!!!...
แมน ซิตี้ไดมอนด์