ศึกเดือด! มาดามแป้ง vs บิ๊กอ๊อด ปมสมาคมฟุตบอลพันหนี้พันคดี
มาดามแป้งเปิดขยะใต้พรม สมาคมฟุตบอลหนี้อ่วม 560 ล้าน ฟ้องไล่เบี้ยบิ๊กอ๊อด ปมฉีกสัญญาสิทธิประโยชน์ ดราม่าเดือด เงิน-อำนาจ-ผลประโยชน์!
หนี้ 560 ล้านของสมาคมฟุตบอล มีที่มาจากไหน?
เสียงสะอื้นของ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ บนเวทีแถลงข่าวสะท้อนชัดว่า สิ่งที่เธอได้รับมอบเป็นมรดกจากอดีตนายกสมาคมฟุตบอลไทย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ไม่ใช่สมาคมที่พร้อมเดินหน้าสู่อนาคต แต่เป็น "มรดกหนี้" ที่หนักอึ้งถึง 560 ล้านบาท
หนี้ก้อนโตนี้เกิดจากอะไร? มาดามแป้งระบุว่า จุดเริ่มต้นมาจากการที่ พล.ต.อ.สมยศ ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับ สยามสปอร์ต แล้วหันไปจับมือกับ แพลนบี ในการบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลไทย แต่ความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้จบลงด้วยความสวยงาม เมื่อ สยามสปอร์ตฟ้องร้องและชนะคดี ทำให้สมาคมต้องจ่ายค่าเสียหายก้อนโต รวมดอกเบี้ยแล้วทะลุครึ่งพันล้านบาท
แล้วใครต้องรับผิดชอบ?
วันนี้ "มาดามแป้ง" ในฐานะนายกสมาคมฟุตบอลคนปัจจุบันต้องรับภาระชดใช้หนี้ก้อนนี้ โดยที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อขึ้นมา เธอแถลงเปิดโปงว่า เข้ามาทำงานด้วยเงินสดติดบัญชีเพียง 27 ล้านบาท แต่ต้องเผชิญหนี้สินล้นมือ ยังไม่นับสัญญาสิทธิประโยชน์กับแพลนบีที่ผูกมัดยาวไปถึงปี 2571
ที่น่าสนใจคือ ทำไมสัญญานี้ถึงกินระยะเวลายาวนานถึง 12 ปี? ปกติแล้วสัญญาลักษณะนี้มักอยู่ที่ 4 ปี เท่านั้น แต่การทำข้อตกลงในยุคของ พล.ต.อ.สมยศ กลับล็อกสมาคมฟุตบอลไทยไว้กับแพลนบีจนแทบไม่มีอิสระในการบริหารรายได้
และที่สำคัญกว่านั้น รายได้จากลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยกว่า 1,200 ล้านบาท แพลนบีรับส่วนแบ่ง 250 ล้านบาท และทำกำไรก่อนหักภาษีปีละ 50 ล้านบาท นี่คือดีลที่เป็นธรรมกับสมาคมฟุตบอลจริงหรือ?
ยังมีอีกประเด็นที่ถูกตั้งคำถาม คือการขายข้อมูล ดาต้า อนาลิซิส ให้บริษัทต่างชาติที่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน ข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้วิเคราะห์แนวโน้มการแข่งขันและอาจนำไปสู่การกำหนดราคาต่อรองที่แม่นยำขึ้น ซึ่งอาจเสี่ยงต่อปัญหาการล็อกผลการแข่งขัน พล.ต.อ.สมยศ อธิบายเรื่องนี้ได้หรือไม่?
น่าสนใจว่า เมื่ออดีตนายกสมาคมฟุตบอลถูกตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับการบริหารงาน แต่เขากลับเลือกที่จะนิ่งเงียบ โดยไม่ยอมอธิบายรายละเอียดของข้อกล่าวหา วันนี้ มาดามแป้ง ต้องเดินหน้าต่อ ด้วยการ เจรจาลดหนี้ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากกรรมการชุดเก่า และหาทางแก้ไขสัญญาที่ไม่เป็นธรรม
แต่คำถามสำคัญก็คือ วงการฟุตบอลไทยจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร หากทุกครั้งที่เปลี่ยนผู้นำใหม่ ก็จะมีการเปิดโปงความไม่ชอบมาพากล และความเสียหายที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนสร้าง?
หรือว่านี่เป็นเพียง "เกมเก้าอี้ดนตรี" ที่สุดท้ายประชาชนและแฟนบอลไทยต้องเป็นคนจ่ายราคาแทน?