หลวงปู่เม้าผู้ถือมั่นในความบริสุทธิ์
หลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่จัดอยู่ในชั้นแนวหน้าของพระคณาจารย์เรืองวิทยาคมทั้งหลาย ของดีแต่ละชนิดที่ท่านสร้างขึ้นแจกจ่ายแก่ศิษยานุศิษย์ปรากฏคุณวิเศษนานาประการ จนเป็นที่นิยมแสวงหาของนักสะสมพ
โดย...เอกชัย จั่นทอง
ในบรรดานักสะสมพระเครื่องในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักสะสมพระเครื่องรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ก็ตาม ต่างก็หันกลับมานิยมสะสมเหรียญใหม่กันอย่างคึกคัก เพราะเหรียญใหม่ ซึ่งมีราคาถูกกว่าของเก่าหลายสิบเท่า และมีประสบการณ์และอภินิหารมากมายไม่แพ้ของเก่า เนื่องจากได้รับการแผ่เมตตาอธิษฐานจิตจากพระอาจารย์ที่เรืองวิทยาคม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในปัจจุบันนี้ก็มีหลายรูปด้วยกัน ต่างก็เป็นพระเถระที่มีความเมตตาและถือความบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง จึงทำให้วงการเหรียญใหม่นี้คึกคักขึ้น ต่างเสาะหาเหรียญพระอาจารย์ชื่อดังอย่างมากมาย
หลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่จัดอยู่ในชั้นแนวหน้าของพระคณาจารย์เรืองวิทยาคมทั้งหลาย ของดีแต่ละชนิดที่ท่านสร้างขึ้นแจกจ่ายแก่ศิษยานุศิษย์ปรากฏคุณวิเศษนานาประการ จนเป็นที่นิยมแสวงหาของนักสะสมพระเครื่องทั่วๆ ไป ท่านยังเป็นพระเถระที่สาธุชนโดยทั่วไปเคารพบูชาเป็นอย่างยิ่ง ด้วยจริยาวัตรที่หมดจดงดงาม ไม่บกพร่องด่างพร้อยแต่ประการใด อีกทั้งเป็นพระเถระที่มีความเชี่ยวชาญในวิทยาคม และเคร่งครัดในการวิปัสสนากรรมฐานที่สูงยิ่งอีกรูปหนึ่ง แม้ในช่วงนั้นท่านมีอายุครบ 100 ปี แต่ก็ยังแข็งแรงสมบูรณ์เดินเหินได้คล่องแคล่วไม่แพ้คนหนุ่มสาวเลย นับว่าท่านเป็นพระเถระที่มีอายุยืนและมีวาสนามากอีกองค์หนึ่ง
สำหรับหลวงปู่เม้า พลวิริโย ท่านถือการธุดงควัตรเป็นนิจสิน ท่านได้เดินออกธุดงค์ไปจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่แถบภาคอีสานเป็นเวลานานหลายสิบปี ในขณะธุดงค์นั้นท่านยังได้ศึกษาอาคมจากอาจารย์ต่างๆ มากมายหลายรูป อาทิ พระอาจารย์นิลพระอาจารย์เพรียน พระอาจารย์เสาร์ กันตสีลเถระ เป็นต้น โดยเฉพาะพระอาจารย์เสาร์ กันตสีลเถระรูปนี้ก็เป็นอาจารย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตตะ พระเถระผู้ซึ่งมีลูกศิษย์โด่งดังมากมาย
หลังจากที่หลวงปู่เม้าเดินธุดงควัตรอยู่เป็นเวลานานปี ก็ได้กลับมาจำพรรษา ณ วัดใหม่เรไรทอง หลังจากนั้นท่านก็ได้สร้างพระอุโบสถและเสนาสนะสงฆ์ในวัดต่างๆ มากมายหลายวัดจนไปถึงการพัฒนาวัดสี่เหลี่ยม ต.หนองสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นวัดที่หลวงปู่เม้าใช้สำหรับจำพรรษาอยู่ด้วย
จากความที่ท่านเป็นพระผู้ที่มีความเมตตาต่อลูกศิษย์ลูกหาทุกคน โดยไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ ไม่ว่าจะยากดีมีจนท่านก็ให้ความเสมอภาคเท่ากันหมด ลูกศิษย์ต่างๆ ของท่านทั่วทุกสารทิศในประเทศไทย จึงได้ร่วมจิตร่วมใจกันจัดองค์ผ้าป่าและกฐินนำติดตามไปทอดยังวัดต่างๆ ที่หลวงปู่เม้ากำลังพัฒนาอยู่ทุกแห่ง เพื่อเป็นการสนองพระคุณที่ท่านมีต่อลูกศิษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
ญาติโยมที่เดินทางไกลไปนมัสการท่าน หลวงปู่เม้าก็ให้เข้าพบโดยมีได้รังเกียจกีดกันใดๆ แม้แต่น้อย โดยที่ท่านมีเมตตาต่อญาติโยมที่ต้องเดินทางมาไกล ท่านก็จะช่วยปัดเป่าความเดือดร้อนให้เขาเหล่านั้นได้สมความหวังที่ตั้งใจไว้ หลวงปู่เม้าจะรดน้ำพระพุทธมนต์ให้อยู่เย็นเป็นสุข และยังมอบเครื่องรางของขลังให้ไว้บูชา โดยไม่คิดราคาแม้แต่บาทเดียว เพื่อสนองความศรัทธาทุกคนที่มีต่อหลวงปู่เม้า เมื่อทำการรดน้ำพระพุทธมนต์เสร็จแล้วท่านจะอบรมสั่งสอนธรรมะ เพื่อเตือนใจ เตือนสติ และนำไปปฏิบัติ นั่นทำให้ประชาชนที่เคารพรักและศิษย์ทั้งหลายทุกคนตื้นตันใจ
วันที่ 4 มิ.ย. 2517 เป็นวันดีอีกวันของการทำบุญฉลองครบ 100 ปี บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายพร้อมสาธุชนได้พร้อมใจจัดงานสมโภชขึ้น และจัดสร้างเหรียญรูปเหมือนของหลวงปู่เม้าขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อหารายได้นำมาบูรณปฏิสังขรณ์ สร้างพระอุโบสถ และด้วยบุญญาธิการที่เปี่ยมล้นในคืนที่ท่านจะปลุกเสกเหรียญได้เกิดเหตุการณ์จันทรุปราคาขึ้น ในโบราณกาลถือว่าเป็นฤกษ์ดีที่สุดในการปลุกเสกเครื่องรางของขลังต่างๆ และพอท่านนั่งปรกปลุกเสกเหรียญดังกล่าว เกิดเหตุการณ์ฝนตกลงมาอย่างน่าอัศจรรย์ ท่ามกลางพระสงฆ์สามเณรและสาธุชนจำนวนมาก ซึ่งเป็นฝนที่ไม่ได้ตั้งเค้ามาก่อน อีกทั้งยังเป็นช่วงหน้าแล้งมาก และเมื่อหลวงปู่ เม้าปลุกเสกเหรียญแล้ว พื้นที่ใน อ.นางรอง ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก เพียงพอกับการต่ออายุพืชผลเกษตร สวนทางกับพื้นที่เขตอำเภอใกล้เคียงและจังหวัดอื่นในภาคอีสานกับแล้งขาดแคลนน้ำอย่างหนัก
ด้วยปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้ศิษยานุศิษย์ของท่านทั้งหลายได้ตื่นตากับเหตุการณ์นั้น ส่งผลให้เหรียญท่านได้รับความนิยมอย่างสูงและหมดลงอย่างรวดเร็ว และไม่เพียงพอต่อลูกศิษย์หลวงปู่เม้าที่มีอยู่ในประเทศไทย