บิตคอยน์ดิ่งหนัก40%
ราคาบิตคอยน์ร่วงหนักเกือบ 40% ด้านแบงก์ชาติโลกประสานเสียงเตือนความเสี่ยงเงินดิจิทัล
ราคาบิตคอยน์ร่วงหนักเกือบ 40% ด้านแบงก์ชาติโลกประสานเสียงเตือนความเสี่ยงเงินดิจิทัล
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บิตคอยน์สกุลเงินดิจิทัลที่มีการซื้อขาย มากที่สุดในโลกปรับตัวลงถึง 38% ไปอยู่ที่ 1.21 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ/บิตคอยน์ ระหว่างการซื้อขายเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. จากระดับสูงสุดที่ 1.95 หมื่นดอลลาร์/บิตคอยน์ เมื่อต้นเดือน ธ.ค. เนื่องจากแรงเทขายทำกำไร ซึ่งส่งผลให้บิตคอยน์ ปรับตัวลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
รายงานระบุว่า นักลงทุนเทขายเงินดิจิทัลสกุลอื่นๆ เช่นกันโดยอีเธอเรียม ซึ่งมีสัดส่วนการซื้อขายมากที่สุดอันดับ 2 ปรับลง 26% และบิตคอยน์ แคช ซึ่งแตกตัวออกมาจากบิตคอยน์ร่วงลง 38%
นายรอสส์ นอร์แมน ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทหลักทรัพย์ ชาร์ปส์ พิกซ์ลีย์ เปิดเผยกับ บลูมเบิร์กว่าดีมานด์จากนักลงทุน รายย่อยทำให้ราคาบิตคอยน์ทะยานขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีการเปิดขาย บิตคอยน์ในรูปแบบสัญญาล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) อาจทำให้นักลงทุนสถาบันรอโอกาสเข้ามาซื้อบิตคอยน์ แล้วเทขายทำกำไรในภายหลัง ซึ่งจะทำให้ราคา บิตคอยน์ร่วงหนักยิ่งขึ้น
บลูมเบิร์กเสริมว่า ราคาบิตคอยน์ปรับขึ้นมากว่า 1,100% แล้วในปี 2560 โดยราคาที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีความผันผวนสูงมาก ทำให้หน่วยกำกับดูแลการเงินของหลายประเทศเตือนความเสี่ยงในการลงทุนและฟองสบู่เงินดิจิทัล ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก
ด้านสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า สัญญาณเตือนความเสี่ยงเงินดิจิทัลล่าสุดมาจาก นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งระบุว่าราคาบิตคอยน์ผิดปกติ แม้ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นประกาศยอมรับให้บิตคอยน์สามารถใช้ชำระเงินได้ตามกฎหมาย และรัฐบาลออกใบอนุญาตให้แพลตฟอร์มซื้อขายเงินดิจิทัล 11 แห่ง สามารถทำธุรกิจดังกล่าวได้เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางออสเตรเลีย เกาหลีใต้ อินเดีย สิงคโปร์ รวมถึงไทย แสดงความวิตกเกี่ยวกับการลงทุนในเงินดิจิทัลด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ คริปโตคอมแพร์ บริษัทรวบรวมและวิจัยข้อมูลเงินดิจิทัล ระบุว่า ประเทศเอเชียโดยเฉพาะญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเวียดนาม มีสัดส่วนการซื้อขายบิตคอยน์ รวมกันถึง 80% จากทั่วโลก