จับตาอนาคต"เรกูเลเตอร์"เล็งแก้กฎหมายลดขั้นตอนตั้งโรงไฟฟ้า

กกพ.เรียกประชุมด่วน 23 ก.ค.สรุปแนวทางคัดเลือกคณะกรรมการ ทั้งสมัครใจลาออก-จับสลาก

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 ก.ค.นี้  กกพ.จะมีการประชุมเพื่อสรุปแนวทางการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการเพื่อให้เป็นไปตามหลักของกฎหมาย ประกอบกับนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ได้ให้ความเห็นว่าควรจะไปหาวิธีการที่เหมาะสมที่สุดเป็นทางออก  ซึ่งเบื้องต้นวิธีการคัดเลือกกรรมการน่าจะมี 2 รูปแบบ คือ ลาออกโดยสมัครใจกึ่งหนึ่ง หรือจับสลากออก 3 คน ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมจะตกลงกัน 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีกระแส กดดันให้ กกพ.ลาออกทั้งหมดในทางปฏิบัติคงเป็นไปยาก หรืออาจเป็นทาง ออกสุดท้าย เนื่องจากเชื่อว่ารัฐบาลยังต้องการให้มีกรรมการส่วนหนึ่งยังคงทำงานต่อเพื่อให้สามารถสานงานที่ค้างอยู่ต่อไปด้วย

นายพรเทพ  ธัญญพงศ์ชัย ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า  กกพ.อยู่ระหว่างเตรียมจัดทำแผนการกำกับกิจการพลังงานของประเทศให้รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วของพลังงาน (ดิสรัปทีฟเทคโนโลยี) และการปฏิรูปประเทศด้านพลังงานทั้ง 17 ประเด็น

ด้านแผนปฏิรูปในระยะเร่งด่วน ปี 2561-2562 จะเสนอกระทรวงพลังงาน แก้ไข พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงานปี 2550 เพื่อให้อำนาจ กกพ.ในการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จากเดิมผู้ประกอบการจะต้องยื่นขออนุญาตกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เป็นการยื่นขออนุญาตกับสำนักงาน กกพ.ที่เดียวแทน

ทั้งนี้ จะลดจำนวนใบอนุญาตให้เหลือเพียง 1 ประเภทจากปัจจุบัน กระบวนการออกใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับหลาย หน่วยงานถึง 4 ใบ ได้แก่ ใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร (อ.1) ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้า (ร.ง.4) ใบอนุญาตให้ผลิตพลังงานควบคุม (พค.2) และใบอนุญาตผลิตไฟฟ้า โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2563 เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป

นอกจากนี้ ยังเตรียมประกาศโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ที่จะใช้ในช่วงปี 2561-2563 รวมทั้งอัตราค่าไฟพิเศษ ซึ่งจะครอบคลุมถึงการประกาศเกณฑ์อัตราค่าบริการพิเศษ ค่าบริการการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายพลังงาน ค่าไฟฟ้าเกาะ และอัตราค่าบริการสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า