'ศักดิ์สยาม' กดมิดคันเร่งนโยบาย จำกัดความเร็ว 120 กม./ชั่วโมง
เตรียมชง ‘ประวิตร’ เคาะไฟเขียว งัดนโยบายยกเลิกก่อสร้างเกาะกลางถนน ด้านตำรวจพร้อมรับนโยบาย ลั่นขับช้าโดนจับ-ขับเร็วเกินก็โดนจับ ยันไม่มีปัญหาข้อกฎหมาย
เตรียมชง ‘ประวิตร’ เคาะไฟเขียว งัดนโยบายยกเลิกก่อสร้างเกาะกลางถนน ด้านตำรวจพร้อมรับนโยบาย ลั่นขับช้าโดนจับ-ขับเร็วเกินก็โดนจับ ยันไม่มีปัญหาข้อกฎหมาย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมปรับเพิ่มเพดานความเร็วรถยนต์สูงสุด 120 กิโลเมตร/ชม.ว่า ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กรมทางหลวงพิจารณาข้อดีและความปลอดภัยของประชาชน
รวมถึงการจัดระเบียบช่วงถนนที่จะปรับเพิ่มความเร็ว120กม./ชม. เช่นถนน เพชรเกษม ถนนสุขุมวิท พหลโยธิน มิตรภาพ โดยกระทรวงจะดำเนินการบนถนนบางช่วงและในส่วนที่สามารถทำได้ก่อน บนถนนสายหลัก แต่หากกรณีอยู่ในเขตชุมชนให้ลดความเร็ว เพื่อความปลอดภัย
เบื้องต้น ถนนขนาด 2ช่องจราจรสวนกันให้วิ่งช้า ถนนขนาด 4ช่องจราจรขึ้นไป มีเกาะกลางแบ่งสามารถใช้ความเร็ววิ่งได้ตามการออกแบบ
ทั้งนี้ ให้ทำการศึกษาและได้ข้อสรุปภายใน1เดือน หลังจากนั้นจะนำเสนอคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีพิจารณา
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคม ต้องร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติบูรณาการร่วมกันในการปรับแก้กฎหมายใหม่ การควบคุมกำกับดูแลผู้ให้รถให้ปฏิบัติตามป้าวควบคุมความเร็วที่ออกแบบไว้โดยเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า กฎหมายเดิมเรื่องการควบคุมความเร็วที่ใช้ปัจจุบันไม่ทันต่อสถานการณ์ หลายหน่วยงานมีความซ้ำซ้อน มีความขัดกัน ไม่สมเหตุสมผล ทำให้เกิดความสับสนต่อผู้ใช้ถนนส่งผลให้เกิดอันตราย อีกทั้งการปรับเพิ่มความเร็ว 120กม/ชม.เป็นการเพิ่มความลื่นไหลของการจราจรไปตามประสิทธิภาพ ของศักยภาพถนนลด
พร้อมมอบหมายนโยบายให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ยกเลิกแผนลงทุนก่อสร้างเกาะกลางบนถนนทั้งหมดเนื่องจากสิ้นเปลืองงบประมาณ มีค่าใช้จ่ายสูงและเสียพื้นที่บนถนนมาก โดยให้ใช้ลักษณะแบริเออร์ (barrier) กั้บแบ่งแยกช่องจราจรแทนซึ่งถือเป็นการสนับสนุนการใช้นโยบายยางพารามาทำแบริเออร์เพื่อช่วยเหลือเกษตร
แหล่งข่าว จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยินดีนำมาตรการดังกล่าวไปปฏิบัติ ไม่มีปัญหาเรื่องการปรับข้อกฎหมาย เนื่องจากกระทรวงคมนาคมสามารถออกข้อบังคับให้นำไปใช้กับผู้ขับขี่ได้โดยตรง ไม่ขัดข้องในการปฏิบัติกระทรวงมีข้อบังคับออกมาอย่างไรก็ต้องทำตามนั้น
ดังนั้นจึงพร้อมนำไปปฏิบัติเรื่องการขับช้าโดนจับและขับเร็วเกินกว่ากำหนดก็โดนจับเช่นกัน แต่หลังจากนี้จะมีการประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดนโยบายที่ชัดเจนอีกที ดังนั้นตอนนี้จึงยังไม่สามารถลงลึกเรื่องรายละเอียดได้