สั่งทลายแก๊งนำเข้าทุเรียนเวียดนามสวมสิทธิ์ทุเรียนไทยขายจีน
รมว.เกษตรฯสั่งจัดการเด็ดขาดทลายขบวนการนำเข้าทุเรียนเวียดนามสวมสิทธิ์ทุเรียนไทยส่งขายประเทศจีน แฉใช้เอกสารรับรอง GAP และ GMP ปลอมเพื่ออัพราคา
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรประสานการทำงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จ.จันทบุรี กรมศุลกากร กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อจัดการอย่างเฉียบขาด กับขบวนการนำเข้าทุเรียนเวียดนามมาสวมสิทธิ์ทุเรียนจันทบุรี เพื่อส่งออกไปจีนโดยสำแดงเท็จ ทั้งการนำเข้าและส่งออก เพื่อป้องกันความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยในตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดหลักของทุเรียนไทย
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า หลักจากทราบถึงการจับกุมทุเรียนสวมสิทธิ์ ตนได้ประชุมทางไกลกับหน่วยงานกระทรวงเกษตรฯและสหกรณ์ผลไม้ใน 14 จังหวัดภาคใต้ขอให้เพิ่มความระมัดระวังการนำทุเรียนต่างประเทศมาสวมสิทธิ์ทุเรียนไทย เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูผลไม้ภาคใต้ นอกจากนี้ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้(ฟรุ้ทบอร์ด-Fruit Board)จะได้นัดประชุมหารือเป็นการด่วนกับหน่วยงานตรวจสอบและปราบปรามปัญหาทุเรียนสวมสิทธิ์ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการป้องกันปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ชุดเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ จ.จันทบุรี นำโดย พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน รอง ผบช.ภ.3 รรท.ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พร้อมด้วย นายวุฒิกร สุขีนัย นอภ.เมือง และ นายชลธี นุ่มหนู ผอ.สวพ.6 (ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 6) นำกำลังบุกเข้าจับกุมผู้ประกอบการล้งรับซื้อผลไม้ “ลุงตู้-อ๊อด” ภายใน ซ.สระบาปบน พื้นที่หมู่ 10 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ .จันทบุรี หลังสืบทราบว่า มีพฤติกรรม นำทุเรียนจากประเทศเวียดนาม มาสวมสิทธิเป็นทุเรียนไทย โดยใช้เอกสารรับรอง GAP และ GMP ปลอมเพื่อส่งออกไปจีนซึ่งจากการตรวจสอบ ทางผู้ประกอบการได้ สำแดงเอกสาร อ้างว่าได้นำเข้าทุเรียนเวียดนามมาแปรรูป จำนวน 18 ตันเพราะราคาทุเรียนเวียดนามกิโลกรัมละ 70 บาท แต่เมื่อนำมาสวมสิทธิเป็นทุเรียนไทยส่งออก จะขายได้ถึงกิโลกรัมละ 160 บาท
สำหรับ ข้อมูลจากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร ในปี 2563 ไทยมีการส่งออกทุเรียนสดมูลค่า 65,631 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 44% โดยมีจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 (มูลค่า 47,798 ล้านบาท สัดส่วน 73% ของการส่งออก)