posttoday

กรมส่งเสริมการเกษตร หนุนเกษตรกร-ประชาชนปลูก ‘ฟ้าทะลายโจร’ พร้อมหาตลาดรองรับ

22 กรกฎาคม 2564

กรมส่งเสริมการเกษตร ส่งเสริมปลูกและแปรรูป “ฟ้าทะลายโจร” พร้อมเตรียมมอบกล้าพันธุ์แก่เกษตรกร เริ่มเดือนส.ค. จำนวน 5แสนต้น 

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า “ฟ้าทะลายโจร”  เป็นพืชสมุนไพรที่กำลังเป็นที่สนใจของสังคมไทยอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากสามารถใช้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบัน มีสาร “แอนโดรกราโฟไลด์” ซึ่งมีสรรพคุณสามารถลดความรุนแรงของโรคในผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการไม่หนักได้  กรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะหน่วยงานส่งเสริมการเกษตรด้านพืชได้ดำเนินการสนับสนุน ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่เกษตรกรผู้ปลูกพืชสมุนไพรอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อให้เกษตรกรนำองค์ความรู้ไปปรับใช้ในพื้นที่การเพาะปลูก ให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และมีสารสำคัญเพียงพอ 

ตลอดจนมีช่องทางการจำหน่ายที่แน่นอน ประกอบกับในปี 2564 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้พืชสมุนไพรเป็นพืชทางเลือก ซึ่งเป็นการพัฒนาพืชสมุนไพร และเปิดโอกาสให้พืชสมุนไพรขยายออกสู่ตลาดได้มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ จากความสำเร็จของโครงการบ้านพอเพียงเลี้ยงชีวิตสู้โควิด-19 ที่ได้มีการมอบพืชผักและสมุนไพร 7  ชนิดให้แก่เกษตรกรในปีที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้นกว่า 3.7 ล้านต้น โดยมีฟ้าทะลายโจร รวมอยู่ด้วย และจากความต้องการต้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจรของประชาชนมีปริมาณมาก จึงได้สั่งการให้กองขยายพันธุ์พืชนำเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจรมาเพาะขยายพันธุ์และต่อยอดสู่โครงการผลิตต้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจรสนับสนุนการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผ่านศูนย์ขยายพันธุ์พืชทั้ง 10 ศูนย์ ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ตรัง นครราชสีมา นครศรีธรรมราช บุรีรัมย์ พิษณุโลก มหาสารคาม ลำพูน สุพรรณบุรี และอุดรธานี 

ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถมอบต้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจรให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปได้ในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม 2564 โดยจะให้บริการศูนย์ละ 50,000 ต้น รวมจำนวนทั้งสิ้น 500,000 ต้น ทั้งนี้ทางกรมส่งเสริมการเกษตรจะแจ้งวันพร้อมให้บริการต้นพันธุ์ที่แน่นอนอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนี้ ในด้านการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร กรมส่งเสริมการเกษตรได้ส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยรวมกลุ่มกันเป็นแปลงใหญ่ ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ มาตั้งแต่ปี 2559 โดยมีกลุ่มแปลงใหญ่พืชสมุนไพร จำนวนทั้งสิ้น 37 แปลง ใน 22 จังหวัด เกษตรกร 1,565 ราย รวมพื้นที่จำนวน 7,913 ไร่ โดยแปลงใหญ่สมุนไพรจะมีตลาดรองรับที่แน่นอน ทั้งแบบมีข้อตกลงล่วงหน้ากับผู้รับซื้อ และจำหน่ายผ่านตลาดเกษตรกร เว็บไซต์ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com ตลาดในท้องถิ่น ตลาดขายส่ง และตลาดส่งออก 

รวมทั้งยังมีแปลงใหญ่สมุนไพร จำนวน 6 แปลงที่มีการจัดทำ MOU กับโรงพยาบาลที่มีการผลิตยาสมุนไพร ได้แก่ 1. แปลงใหญ่สมุนไพรทับทิมสยาม 05 ตำบลคลองไก่เถื่อน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ทำ MOU ส่งวัตถุดิบสมุนไพรแห้ง กับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร 2. แปลงใหญ่สมุนไพร หมู่ 4 ตำบลโคกจาน อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี MOU ส่งวัตถุดิบสมุนไพรสด กับโรงพยาบาลตระการพืชผล 3. แปลงใหญ่สมุนไพร หมู่ 5 ตำบลพนา อำเภอพนา จังหวัดอำนาจเจริญ ทำ MOU ส่งวัตถุดิบสมุนไพรสด กับโรงพยาบาลพนา 

4. แปลงใหญ่สมุนไพร หมู่ 4 ตำบลเขาวงกต อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ทำ MOU ส่งวัตถุดิบสมุนไพรแห้ง กับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  5. แปลงใหญ่สมุนไพรบ้านโนนธาตุ ตำบลพนา อำเภอพนา ทำ MOU ส่งวัตถุดิบสมุนไพรสด / แห้ง กับโรงพยาบาลพนา และ 6. แปลงใหญ่สมุนไพรตำบลหนองตอกแป้น ตำบลหนองตอกแป้น อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ทำ MOU ส่งวัตถุดิบสมุนไพรแห้ง กับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ปัจจุบันมีเกษตรกรรวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกและแปรรูปสมุนไพรกว่า 3,000 กลุ่ม โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้เข้าไปส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนเหล่านี้มีการวางแผนการผลิต เน้นกระบวนการผลิตและแปรรูปที่ถูกต้อง ปลอดภัย และได้รับการรับรองมาตรฐานต่าง ๆ ได้แก่ GAP อย. GMP เกษตรอินทรีย์ และ HACCP  รวมถึงการพัฒนากล่องบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างมูลค่าสินค้าและตีตลาดกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีรูปลักษณ์สวย ทันสมัย 

โดยสินค้าจากวิสาหกิจชุมชน ประกอบไปด้วยสินค้าทั้งประเภทอุปโภค เช่น ลูกประคบสมุนไพร แชมพู สบู่สมุนไพร ผงขัดผิว ครีมทาผิว เป็นต้น และประเภทบริโภค เช่น น้ำสมุนไพร ขิงผง น้ำพริกสมุนไพร ข้าวเกรียบสมุนไพร เป็นต้น