อุตฯยานยนต์ฟื้นแล้ว ลุยเป้าผลิตปี’65 แตะ1.8 ล้านคัน
ส.อ.ท.ชี้ยอดขายรถปลายปีคึกคักเดือนพ.ย.พุ่ง 7 หมื่นคันสูงสุดรอบ 8 เดือน ขณะที่ศก.โลกฟื้นดันส่งออกโต 35% ลุ้นครม.เคาะแพจเกจรถอีวี แนะราคาควรต่ำกว่าคันละล้าน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพ.ย. 2564 มีจำนวน 71,716 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค.2564 ร้อยละ 11.25 สูงสุดในรอบ 8 เดือนเนื่องจากประชาชนเชื่อมั่นรายได้ในอนาคตมากขึ้นจากการผ่อนคลายการล็อกดาวน์เพิ่มขี้นเรื่อย ๆ การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นคนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ เราเที่ยวด้วยกันเป็นต้น รวมถึงการเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และการส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าสำคัญที่เติบโต ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
ส่วนการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป มีจำนวน 98,829 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย. 2563 ร้อยละ 32.60 และ เพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค. 2564 ร้อยละ 21.15 มีมูลค่า 57,737.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย. 2563 ร้อยละ 35.30 สูงสุดในรอบ 8 เดือน โดยส่งออกเพิ่มขึ้นทุกตลาดเพราะประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะที่ส่งออกไปกว่าร้อยประเทศ จึงส่งออกได้เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกนอกจากรถยนต์สำเร็จรูปแล้ว เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์และอะไหล่รถยนต์ก็ส่งออกเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ในรอบ11 เดือนมียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 857,887 คัน มีมูลค่า 500,159.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.56 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้การผลิตรถยนต์ในเดือนพ.ย.2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 165,353 คัน สูงสุดในรอบ 12 เดือน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 4.12 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค.ปีนี้ร้อยละ 7.35 เนื่องจากมีการผลิตเพื่อส่งออกถึง 90,112 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 54.50 ของยอดผลิตรถยนต์ และเพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย.ปีที่แล้วร้อยละ 17.15
ขณะที่ภาพรวมจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วง 11 เดือน(ม.ค.-พ.ย.) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,531,337 คัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 19.26 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า แนวโน้มยานยนต์ในปี 2565 ยังต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 จะทำให้เกิดปัญหาชิปขาดแคลนหรือไม่ แต่หากไม่รุนแรงเหมือนในช่วง 1-2 เดือนนี้ คาดการณ์เป้าหมายการผลิตรถยนต์จะอยู่ที่1.8 ล้านคัน จากปีนี้ที่น่าจะผลิตได้เกิน 1.6 ล้านคัน ดังนั้นยอดขายในปีหน้ากำหนดเป้าหมายไว้ที่ 8-8.5 แสนคัน และส่งออก จำนวน 9-9.5แสนคัน
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอครม.อนุมัติมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า(รถอีวี)เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศรวมถึงให้ไทยสามารถผลิตรถอีวีได้เอง ซึ่งในด้านผู้ซื้อราคารถที่เหมาะสมไม่ควรจะสูงกว่า 1 ล้านบาท หรือเฉลี่ยควรมีราคาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับตลาดรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเฉลี่ยคันละ8แสนบาท
อย่างไรก็ตามมาตรการภาษีอาจไม่เพียงพอที่จะจูงใจให้เกิดการใช้รถอีวีในประเทศ โดยรัฐต้องเข้ามาอุดหนุนในเรื่องราคาด้วยไม่เช่นนั้นโอกาสที่รถอีวีจะขยายตัวคงไม่มาก