ข้าวเกรียบมโนห์รา ชูรสชาติไทยเจาะเพื่อนบ้าน

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

บริษัท มโนห์ราอุตสาหกรรมอาหาร ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารว่าง (สแน็ก) ข้าวเกรียบกุ้งแบรนด์มโนห์ราที่อยู่ในตลาดมานานกว่า 50 ปี ปัจจุบัน วราภรณ์ วังวิวัฒน์ ทายาทธุรกิจวัย 37 ปี ในฐานะผู้จัดการฝ่ายส่งออก เข้ามารับผิดชอบการทำตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะ รวมถึงการเข้าไปขยายตลาดใหม่ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อย่างซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ที่มองว่า จะยังมีโอกาสทางธุรกิจอีกมากจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อย่างเป็นทางการแล้ว

วราภรณ์ เล่าว่า ได้เริ่มเข้ามาช่วยดูแลตลาดต่างประเทศให้กับแบรนด์มโนห์รามานานกว่า 10 ปี จากความสนใจส่วนตัวที่ต้องการขยายตลาดส่งออก ที่ต่อยอดมาจากความที่ชอบงานขายมาตั้งแต่เด็ก จึงหันมารับผิดชอบตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะดูตั้งแต่กำลังการผลิตสินค้า และบุคลากรต่างประเทศ ปัจจุบันแบรนด์มโนห์ราได้เข้า
ตลาดในยุโรปหลายประเทศ โดยเฉพาะร้านอาหารไทยในต่างประเทศเกือบทุกร้านที่จะต้องมีผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบมโนห์ราอยู่คู่ร้าน รวมถึงในช่องทางร้านค้าปลีกที่มีสินค้าไทย สินค้าจากเอเชีย จำหน่ายด้วย

ทั้งนี้ สินค้าของบริษัทในกลุ่มมโนห์รา อย่างข้าวเกรียบ หรือน้ำพริก ถือเป็นผลิตภัณฑ์จากเมืองไทยในยุคแรกๆหรือเป็นสินค้ากลุ่มบุกเบิกสไตล์ไทยที่เข้าไปทำตลาดต่างประเทศถึงปัจจุบันนี้ สินค้าบริษัทมียอดขายส่งออกกว่า 50% อยู่ในตลาดสหรัฐอเมริกา และยุโรป โดยใช้กลยุทธ์การทำตลาดร่วมกับพันธมิตรธุรกิจในแต่ละประเทศในฐานะคู่ค้า ซึ่งในจุดนี้บริษัทจะมุ่งให้ความสำคัญด้านการบริการที่ดีควบคู่กับการทำตลาด อย่างการจัดส่งสินค้าในรูปแบบตู้คอนเทนเนอร์ บริษัทก็จะอำนวยความสะดวกบริการด้านเอกสารสินค้าให้กับคู่ค้าได้อย่างครบวงจร เป็นต้น

สำหรับการบริหารธุรกิจในรุ่นของวราภรณ์ ในช่วงนี้จะมุ่งขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ มากขึ้น โดยใช้วิธีการจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าผ่านงานแสดงสินค้าร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในต่างประเทศ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเจอพันธมิตรธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงการเข้าสู่เออีซี ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีในการทำตลาดสแน็กอย่างข้าวเกรียบตรามโนห์รา โดยปัจจุบันได้นำสินค้าเข้าไปยังตลาดซีแอลเอ็มวี แล้ว ทั้งเมียนมา เวียดนาม เป็นต้น ทั้งในรูปแบบผ่านผู้นำเข้า และตัวแทนกระจายสินค้า (ดิสทริบิวเตอร์)

ขณะที่กลยุทธ์ที่ใช้ในการเข้าตลาดของมโนห์รา คือ การชูจุดเด่นสินค้าไทยที่เป็นเอกลักษณ์ มีความเป็นเอ็กโซติก (Exotic) อย่างข้าวเกรียบมโนห์รา ถือว่าติดอันดับ 1 ใน 3 ของข้าวเกรียบ ที่มีราคาค่อนข้างแพงที่สุดในโลกจากคุณภาพสินค้าวัตถุดิบ 100% ในการผลิต อย่างใช้แป้งมันไทย กระเทียมไทย พริกไทยกุ้ง ฯลฯ ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในการผลิต และเป็นวัตถุดิบของไทยระดับคุณภาพทั้งหมด ที่สามารถสื่อสารการทำตลาดไปยังผู้บริโภคในต่างประเทศได้ว่า เป็นสินค้าวัตถุดิบจากไทยจริงๆ ที่มาจากธรรมชาติและมีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งเป็นข้อมูลที่นำไปใช้ในตลาดประเทศเพื่อนบ้านเช่นกัน

ปัจจุบันบริษัทผลิตและทำตลาดสินค้าแบรนด์มโนห์รามากกว่า 50 รายการ (เอสเคยู) แบ่งเป็นตลาดส่งออกอยู่ที่ 30% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจาก 5% ภายใน 2 ปีที่ผ่านมา และ 70% เป็นตลาดในประเทศ พร้อมวางแผนเพิ่มกำลังผลิตอีก 20% เพื่อขยายตลาดส่งออกโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่ค่อนข้างตอบรับสินค้าจากไทยเป็นอย่างดี

วราภรณ์ กล่าวว่า การเข้าตลาดเออีซีนี้ มองว่าค่อนข้างมีแต้มต่อหลายด้าน ทั้งตัวแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอยู่ในตลาดมานานหลายสิบปี และด้านคุณภาพรสชาติที่ดีถูกปาก โดยในปีนี้วางเป้าหมายส่งออกเติบโตเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนมียอดขายกว่า 200 ล้านบาท โดยพิจารณาจากหลายปัจจัยทั้งภาพรวมเศรษฐกิจที่อาจกระทบกำลังซื้อพอสมควร รวมถึงภาวะแห้งแล้งที่อาจกระทบผลผลิตเกษตร ทำให้รายได้ในกลุ่มเกษตรกรลดลงเช่นกัน ซึ่งอย่างหลังอาจเป็นปัญหาเดียวกับในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านด้วย