ณวัฒน์ อิสรไกรศีล กับการประกวดนางงามแบบแกรนด์แกรนด์
ไม่น่าเชื่อว่าจากเด็กชาวดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ที่เข้ามาร่ำเรียนในเมืองกรุง มุ่งหน้าสู่การตระเวนเล่นเกมโชว์
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ... วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
ไม่น่าเชื่อว่าจากเด็กชาวดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ที่เข้ามาร่ำเรียนในเมืองกรุง มุ่งหน้าสู่การตระเวนเล่นเกมโชว์ ผันตัวเข้าสู่วงการท่องเที่ยว จนได้เข้าสู่วงการบันเทิง ทั้งเป็นผู้ผลิตรายการ เป็นพิธีกร เป็นผู้อำนวยการกองประกวดนางงาม จนมาวันนี้ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล วันที่เขาได้สวมบทบาทการเป็นประธานและผู้ก่อตั้ง องค์กรมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ที่มีเวทีประกวดนางงามทั้งในระดับนานาชาติ ระดับประเทศ และระดับจังหวัด ภายใต้ชื่อ มิสแกรนด์ อย่างสมภาคภูมิ
เส้นทางหลังจากนี้ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง บุคคลผู้นี้จะมาบอกเล่าเรื่องราวดีๆ ให้เราได้อัพเดทกัน
ที่ไหน? เมื่อไหร่? อย่างไร?
“มาวันนี้ ก็รู้สึกดีใจที่องค์กรมิสแกรนด์ฯ ของเรา สามารถก้าวมาถึงจุดที่เรามีทั้งเวทีระดับจังหวัด ซึ่งมีผู้ซื้อลิขสิทธิ์ของเราไปทำการจัดการประกวดเพื่อเฟ้นหา 77 สาวงาม เพื่อเป็นตัวแทนของ 77 จังหวัด มาประกวดเวทีระดับประเทศ เพื่อเป็นตัวแทนของประเทศไปประกวดยังเวทีระดับนานาชาติถึง 5 เวที รวมทั้งเวทีมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ที่จะจัดประกวดในปลายปีนี้ที่ลาสเวกัส สหรัฐ”
สำหรับเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2016 ได้เริ่มเปิดฉากการแข่งขันอย่างคึกคักเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา และคึกคักมากขึ้น เมื่อได้มีการจัดการเดินแฟชั่นโชว์ ทั้งลุคนางแบบ และลุคนางงาม พร้อมเปิดตัวมงกุฎมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ในวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมานี้ด้วย
“สำหรับวันนี้ ก็เป็นวันที่น้องๆ สาวงามทั้ง 77 คน จะได้เดินทางไปเก็บตัวที่ จ.อุดรธานี ซึ่งขอบอกเลยว่า กิจกรรมแน่นมาก น้องๆ ต้องอึด และแกร่งจริง โดยไฮไลต์สำคัญอยู่ที่วันที่ 15 มิ.ย.เราจะมีขบวนแห่รอบเมืองแบบคาร์นิวัล พร้อมวงโยธวาทิต และวันที่ 17 มิ.ย.เราจะมีแฟชั่นโชว์ชุดว่ายน้ำ และประกวดขวัญใจ จ.อุดรธานี ซึ่งทั้ง 3 อีเวนต์นี้ จะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางยูทูบ หลังจากนั้นก็จะเป็นการประกวดชุดประจำชาติ และมีประกวดรอบ Preliminary ในวันที่ 24 มิ.ย.จนไปถึงรอบไฟนอล ในคืนวันที่ 26 มิ.ย.ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก โดยเป็นการถ่ายทอดสดแบบเรียลไทม์ หลังละครจบ ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 เพื่อให้แฟนนางงามทั้งในอินดอร์ฯ และผู้ชมทางบ้านได้ลุ้นกันวินาทีต่อวินาทีไปพร้อมกันทั้งประเทศ”
คุณค่าของการได้รับตำแหน่ง
เมื่อพูดถึงการที่สาวงามทั้งหลายได้รับตำแหน่งมิสแกรนด์ของทั้ง 77 จังหวัดมาแล้ว ณวัฒน์เผยว่า คุณค่าของการได้รับตำแหน่งนี้อยู่ที่ก่อนการเก็บตัวเพื่อประกวดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2016 สาวงามทั้ง 77 คน จะต้องลงพื้นที่เพื่อทำประโยชน์ให้กับจังหวัดที่ตนได้สวมสายสะพายมา
“เหนือไปกว่านั้น หน้าที่ของแต่ละสาวงาม คือ การทำให้คนในจังหวัดได้รับรู้ว่ามีเวทีมิสแกรนด์ มีสาวงามที่ถือเป็นความภาคภูมิใจของจังหวัดของตนเอง และสาวงามจะต้องสร้างฐานแฟนคลับผ่านทั้งสื่อโซเชียลมีเดีย และออกพื้นที่เพื่อเจอหน้าค่าตากัน”
การประกวดนางงาม นอกจากสาวงามจะต้องเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย ความสวยความงาม แน่นอนว่ายังต้องเตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจแบบขั้นแอดวานซ์กันมาเลยทีเดียวเชียว
“เมื่อสาวงามมารวมตัวกัน 77 คน มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกว่า 3 อาทิตย์ มันต้องมีหวั่นวิตก ยิ่งพอได้รับกระแสจากแฟนนางงาม ทั้งในด้านดีและไม่ดี ก็ยิ่งจะทำให้เกิดอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ไหนจะต้องทำกิจกรรมต่างๆ ซ้อมเดิน ซ้อมโชว์ต่างๆ บนเวที ย่อมเกิดความเครียดความกดดัน ซึ่งสาวงามทั้ง 77 คน ก็ต้องพร้อมสู้ คนที่แกร่งและเก่งจริงเท่านั้น ถึงจะคว้ามงกุฎมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ไปครอบครอง”
นี่แหละคือมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2016
ใครหลายคนคงอยากรู้ว่า คนที่จะมาเป็นมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2016 รวมทั้งมิสซูปราเนชั่นแนลไทยแลนด์ มิสอินเตอร์คอนติเนนตัลไทยแลนด์ มิสทัวริซึมอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ และท็อปโมเดลออฟเดอะเวิลด์ไทยแลนด์ จะต้องมีองค์ประกอบหรือคุณลักษณะใดบ้าง
“ก่อนจะไปพูดถึงเรื่องนั้น ผมต้องบอกก่อนว่า ปีนี้เรามีสาวงามค่อนข้างเยอะ แต่เราต้องคัดให้เหลือเพียง 5 คนเท่านั้น ถ้าใครไปไม่ถึงฝัน ปีหน้าอยากให้กลับมาใหม่ สามารถย้ายไปประกวดจังหวัดอื่นได้ เพราะผมปล่อยล้อฟรีให้สาวงามมีอิสระในการประกวดจังหวัดใดก็ได้ ไม่ใช่จังหวัดบ้านเกิดของตนเองก็ได้ แต่ผู้ที่ซื้อลิขสิทธิ์ของผมไปจัดการประกวดต้องเป็นคน
จังหวัดนั้นๆ”
มาที่องค์ประกอบหรือคุณลักษณะของคนที่จะได้เป็นท็อป 5 ของมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2016 ซึ่งเป็นองค์ประกอบหรือคุณลักษณะที่องค์กรมิสแกรนด์ต้องการและตามหาอยู่ โดยณวัฒน์ได้เผยไต๋ไว้ว่า เขาจะมองไปที่รูปร่างก่อนเป็นอันดับแรก
“รูปร่างต้องดี สมดุล ไม่มีช่วงไหนสั้นยาวไปกว่ากัน ถามว่าไปยืดไปหดไปตัดต่อได้มั้ย ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นรูปร่างต้องดีและสมดุลนำมาก่อน ต่อมาเรื่องหน้าตาและผิวพรรณ ในส่วนของผิวพรรณ ผมไม่ได้สนใจสีผิว ต้องขาวแล้วจะสวย หรือดำแล้วจะสวย สีผิวไหนก็ได้ แต่สุขภาพของผิวต้องดี เนียน ไม่เปรอะ ไม่แตก ไม่กระดำกระด่าง และไม่มีสิ่งที่ไม่ควรจะมีอยู่บนผิว เช่น รอยแผลเป็น หรือสิว ถามว่ารอยสักมีด้วยได้มั้ย มีได้ แต่ต้องมีเล็กๆ น้อยๆ และอยู่ในจุดที่มองไม่เห็น”
ในส่วนของหน้าตา ณวัฒน์ เผยว่า คำว่าสวยไม่ได้หมายความว่าหวาน หรือเป็นพิมพ์นิยม
“คำว่าสวยในความหมายของผม คือ มองแล้วรู้สึกเป็นมิตร มีแรงดึงดูดที่ทำให้อยากมองแล้วอยากมองอีก และน่าเมตตา คำว่าน่าเมตตาเป็นจุดที่แข็งแรงมากสำหรับคนที่ดัง เพราะนั่นหมายความว่าคุณได้ใจคน คนเห็นคุณแล้วรู้สึกเมตตา ทำให้คุณก้าวเข้าไปนั่งอยู่ในใจของเขาได้ นอกจากนี้องค์ประกอบของใบหน้าต้องดีด้วย รวมทั้งสามารถสื่อสารความรู้สึกผ่านทางสายตา หรือการยิ้มได้อย่างลงตัวและพอดี ถามว่าศัลยกรรมได้มั้ย ได้ครับ แต่ต้องไม่รุนแรงจนเกินไป สำหรับวิธีการแต่งหน้าหรือทำผม ก็มีส่วนช่วยได้ แต่ต้องฝึกซ้อมและลองทำในหลายๆ รูปแบบมาก่อนที่จะเข้ากองประกวด ทำให้เสร็จสรรพเรียบร้อย จะได้ไม่มามีปัญหาในกอง อย่างคนที่ผมน้อย ก็ต้องเตรียมแฮร์พีชมาให้เยอะนิดนึง อย่างคนที่หัวไม่กลม แล้วไปแสกกลาง ก็จะเห็นรอยแบนของหัว ถ้าหัวแบน ก็ต้องยีฟู แล้วเสยเปียกโด่งๆ เพื่อให้หัวสูงและกลม ทุกคนสามารถหาเทคนิคส่วนตัวมาก่อนเข้ากองประกวดได้”
แต่สิ่งที่สำคัญมากไปกว่ารูปร่างหน้าตา ณวัฒน์ เผยว่า มันคือความจริงใจและความบริสุทธิ์ใจที่อยากเป็นผู้ชนะ
“บางคนเป็นผู้ชนะเพราะอยากได้เงิน หรือพี่เลี้ยงให้มา หรือมาเพราะชอบแค่การแข่งขัน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด คนที่จะได้ตำแหน่งสูงสุดบนเวทีนี้ จะต้องเป็นคนที่ตระหนักรู้ว่า นี่คือจุดสูงสุดของชีวิตที่ตั้งใจมาเพื่อจะคว้ามันไปจริงๆ และจะไม่ทำอะไรให้เสื่อมเสียต่อตำแหน่งที่คุณได้รับ เพราะฉะนั้นบางคนมาเพื่อช็อปปิ้งตำแหน่ง
ไม่ได้ที่ 1 ก็ขอที่ 2 3 4 ก็ได้ หรือได้รางวัลพิเศษก็ได้ หรือมาแล้วได้ 5 หมื่นบาทแล้วไปประกวดเวทีอื่นต่อก็ได้ พวกนี้ไม่มีวันชนะ สิ่งเหล่านี้เราสามารถสืบรู้ได้ว่าเขามาด้วยความเต็มใจหรือไม่ มาด้วยความบริสุทธิ์ใจหรือเปล่า เขามีเป้าหมายในใจว่าต้องการเป็นผู้ชนะหรือมาเพื่อสิ่งนี้หรือเปล่า เมื่อได้มาแล้วต้องพร้อมใช้งานได้ทุกเวลา ไม่มีพันธะและความงอแงใดๆ ทั้งสิ้น”
ท้ายที่สุด ณวัฒน์ เผยว่า บนเวทีนี้เขามีรางวัลให้ 5 ตำแหน่ง สำหรับ 5 สาวงาม ซึ่งทุกตำแหน่งไม่จำเป็นต้องมีบุคลิกลักษณะตามบริบทของเวทีต่างๆ ที่จะต้องส่งไปเป็นตัวแทนเข้าร่วมประกวด
“ข้อนี้ ผมอยากให้ผู้เข้าประกวดวางใจได้เลย ไม่ต้องกังวล และไม่ต้องห่วงว่าแฟนนางงามทั้งหลายจะมาบลัฟเราว่า สวยแบบนี้ ต้องได้ตำแหน่งนี้เท่านั้น ไม่จำเป็น ท้ายที่สุดผมจะเขย่าเอาสาวงามทั้ง 77 จังหวัด มาดูว่าใครคือคนที่ใช่ที่สุด เหมาะสมที่สุด ลงตัวที่สุด เพียง 1 เดียวเท่านั้น ที่เหลือ 2 3 4 5 เราก็มาดูว่า คะแนนของเขาได้เท่าไหร่ ก็ลดหลั่นกันไปตามลำดับครับ”