เงินบาทยังแข็งค่าหนุนเงินไหลเข้าต่อ
เงินบาทเคลื่อนไหวสวนทางภูมิภาค ส่งผลแข็งกว่าดอลลาร์สหรัฐ 0.6% เงินกระหน่ำไหลเข้าตลาดพันธบัตร
เงินบาทเคลื่อนไหวสวนทางภูมิภาค ส่งผลแข็งกว่าดอลลาร์สหรัฐ 0.6% เงินกระหน่ำไหลเข้าตลาดพันธบัตร
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทในขณะนี้เคลื่อนไหวไม่สอดคล้อง กับภูมิภาค โดยตั้งแต่สิ้นปี 2560 จนถึงวันที่ 2 ต.ค. 2561 เงินบาทแข็งค่ากว่าเงินดอลลาร์สหรัฐ 0.6% และเมื่อเทียบกับเงินสกุลคู่ค้าคู่แข่ง (NEER) เงินบาทแข็งค่ากว่า 5% ขณะที่ตัวเลขดัชนีค่าเงินบาทที่แท้จริง (REER) หรือเงินบาท หักเงินเฟ้อ ก็แข็งค่ากว่าสกุลอื่น 4.8%
ทั้งนี้ ตลาดมองว่าประเทศไทยมีเสถียรภาพต่างประเทศดีกว่าประเทศตลาดเกิดใหม่อื่น ดังนั้น ช่วงต้นปีที่ผ่านมาเงินทุนต่างชาติไหลออกจากประเทศตลาดเกิดใหม่ แต่กลับไหลออกจากประเทศไทยไม่มาก ทำให้ช่วงที่ค่าเงินภูมิภาคอ่อน เงินบาทอ่อนน้อยกว่าประเทศอื่น และช่วงหลังมีเงินไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตร ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากกว่า ประเทศอื่นในภูมิภาค
"ในภูมิภาคนี้ มีเกาหลีใต้ ไต้หวัน และไทย เป็น 3 ประเทศหลักที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุน จากการที่ประเทศมีเสถียรภาพ จากดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูง รวมถึงเกณฑ์อื่นๆ ก็เกินมาตรฐานสากล เมื่อเทียบกับประเทศตลาดเกิดใหม่อื่นในภูมิภาคเอเชีย" นายจาตุรงค์ กล่าว