posttoday

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด หั่นจีดีพีไทยอีก-5%

06 เมษายน 2563

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด หั่นจีดีพีไทยติดลบ 5.0% คาด ธปท. ลดดอกเบี้ยเหลือ 0%

ดร.ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคาสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับลดจีดีพีของไทยปี 2563 ขยายตัว -5.0% จากเดิม -1.0% ซึ่งติดลบมากที่สุดตั้งแต่ปี 2541 การปรับลดประมาณการในครั้งนี้สะท้อนจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาที่รุนแรงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ธนาคารคาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลอยู่ที่อยู่ที่ 4.5% ของจีดีพีในปี 2563 อันเป็นผลจากการนำเข้าที่ลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว ราคาน้ำมันที่ลดลง บนสมมติฐานว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้ในระดับหนึ่ง

"แม้จะยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวกลับมาเมื่อใด แต่ธนาคารมองว่าการฟื้นตัวน่าจะเกิดขึ้นหลังไตรมาส 2 ของปี 2563" ดร.ทิม กล่าว

นอกจากนี้ ธนาคารคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ 0.25% ณ สิ้นปี 2563 และมีความเป็นไปได้ที่เราอาจเห็น ธปท.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือศูนย์ หรือติดลบ หากสถานการณ์แย่ลง

"การลดอัตราดอกเบี้ยเป็นศูนย์มีความเสี่ยงที่จะทำให้เงินบาทอ่อนค่า ประเด็นนี้ ธปท.น่าจะยังเป็นกังวลต่อความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเงินทุนไหลออก ธนาคารมองว่านโยบายการคลังจำเป็นต้องมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับศูนย์หรือติดลบ" ดร.ทิม กล่าว

ทั้งนี้ ธนาคารปรับประมาณการค่าเงินบาท โดยมองว่าในช่วงกลางปีนี้อยู่ที่ระดับสูงกว่า 32.50 (จากเดิม 31.50) เพื่อสะท้อนการอ่อนค่าของเงินบาทในระยะนี้ นอกจากนี้การโอนเงินปันผลกลับประเทศอาจส่งผลเพิ่มเติมต่อค่าเงินบาทในไตรมาส 2 ในขณะที่การปิดเมืองของหลายประเทศทั่วโลกชะลอจำนวนนักท่องเที่ยวในระยะสั้น