เศรษฐกิจไทย ไร้หางเสือ

เศรษฐกิจไทย ที่อยู่ในภาวะดิ่งเหวเช่นนี้ ทำให้ประชาชน และนักลงทุนจำนวนมาก ตามหาทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าทำอะไรกันอยู่ หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์เศรษฐกิจล่าสุดขยายตัวติดลบ 8.1% และยังมีความเสี่ยงที่จะขยายติดลงไปมากกว่านี้

ที่สำคัญกว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลตอนนี้หน้าตาเป็นอย่างไร ประชาชนและนักลงทุนต้องการรู้ว่า ตอนนี้ใครเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลตัวจริงเสียงจริงกันแน่ ที่จะเป็นแม่ทัพใหญ่ นำพาเศรษฐกิจไทยพ้นจากพิษโควิด-19 ไปให้ได้

แม้ว่า สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะออกตัวมาตลอดว่า ไม่ได้เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นแค่รองนายกรัฐมนตรีที่คุมกระทรวงเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า สมคิด เป็นภาพจำของหัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลที่แกะไม่ออก เมื่อไม่มีอำนาจในการบริหารเศรษฐกิจได้เต็มไม้เต็มมือ ทำให้ประชาชนและนักลงทุนเกิดความไม่เชื่อมั่น

ส่วน แม่ทัพใหญ่เศรษฐกิจ อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจตัวจริงเสียงจริง แต่ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ ต้องยอมรับว่า บริหารความมั่นคงทางการเมือง มากกว่าบริหารเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ในภาวะวิกฤตโควิด ทำให้เกิดวิกฤตของเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น

ก่อนวิกฤตโควิด รัฐบาลมีการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ นั่งเป็นคนบัญชาการ เพราะเห็นว่าสัญญาณเศรษฐกิจไม่ดีตั้งแต่กลางปี 2562 แต่การประชุม ครม. เศรษฐกิจ ก็กระท่อนกระแท่น มีการประชุมไม่แน่นอน รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรี หลายกระทรวงเศรษฐกิจ ก็ไม่เข้าร่วมประชุม ทำให้มาตรการดูแลเศรษฐกิจที่ออกมาไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

ยิ่งตอนนี้ มีวิกฤตโควิดระบาด ครม. เศรษฐกิจล้มหายตายจากไปจนประชาชนและนักลงทุนลืมไปแล้วว่า รัฐบาลเคยมี ครม.เศรษฐกิจ ไม่มีการพูดถึงไม่มีใครจำได้ แม้แต่รัฐบาลก็ไม่คิดจะเรียกประชุม ครม. เศรษฐกิจ เพื่อเร่งออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างกระทรวงต่างทำ เป็นมาตรการเบี้ยหัวแตกไม่มีพลังในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ

ล่าสุดการเมืองร้อน มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งจะนำไปสู่การปรับ คณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเป้าใหญ่ คือ การยกเครื่องทีมเศรษฐกิจ ยิ่งทำให้ประชาชนและนักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจเศรษฐกิจเพิ่มเป็นทวีคูณ

เพราะหากพิจารณาว่า ทีมเศรษฐกิจ ที่นำโดยนายสมคิด และทีม 4 กุมารในสังกัด ว่าเป็นหัวกระทิแล้ว ยังเอาเศรษฐกิจไม่อยู่ และกระแสข่าวว่า พปชร. จะส่ง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของ พปชร. ขยับขึ้นมาเป็น หัวหน้าทีมเศรษฐกิจแทนนายสมคิด และ พล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งสร้างความสับสนให้ประชาชนและนักลงทุนสาหัสเพิ่มมากขึ้น

ถึงเวลาแล้ว ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องแสดงบทบาทเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลของประเทศอย่างแท้จริง เพื่อนำพาเศรษฐกิจประเทศให้พ้นจากวิกฤตโควิด-19 ไปให้ได้ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ปล่อยให้ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลป่วนจับต้นชนปลายไม่ถูกอย่างนี้ต่อไป เศรษฐกิจมีแต่ทรุดกับทรุดและจะเกิดวิกฤตที่ร้ายแรงกกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540

ประชาชนและนักลงทุนไม่ชอบความไม่แน่นอน ข่าวปรับครม. รายวัน การเปลี่ยมทีมเศรษฐกิจรายวัน ข่าวปล่อยคนนั้นคนนี้จะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ ขณะที่คนเก่ายังนั่งทำงานอยู่ ภาวะเช่นนี้ ประชาชนและนักลงทุนมีแต่หนีไม่มีใครบริโภคไม่มีใครลงทุน เศรษฐกิจไทยก็สิ้นลมในที่สุด

ในภาวะตอนนี้ ยิ่งรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ คิดช้าทำช้าไม่กล้าทำไม่กล้าตัดสินใจกับแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และการสร้างความชัดเจนทีมเศรษฐกิจ ยิ่งทำให้ประชาชนและนักลงทุน ไม่รู้ว่าความกังวลการระบาดของโควิดรอบสอง กับ ปัญหาทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลที่แท้จริงคือใคร อันไหนน่ากลัวจะเขย่าขวัญเศรษฐกิจไทยได้มากกว่ากัน