“ฟิทช์”คาดปีนี้บริษัทไทยผลงานฟื้น จากการคลายล็อกทางเศรษฐกิจ
“ฟิทช์”คาดปีนี้บริษัทไทยผลงานฟื้น จากการคลายล็อกทางเศรษฐกิจ ชี้ต้นทุนพลังงานสูงกดดันธุรกิจไฟฟ้า
นายเลิศชัย กอเจริญรัตนกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายจัดอันดับเครดิตภาคธุรกิจอุตสาหกรรม ของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) กล่าวในงานสัมมนาหัวข้อ “แนวโน้มธุรกิจไทย (2022 Thailand Corporate Credit Outlook)” ว่า ผลประกอบการของบริษัทไทยที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิตมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2565 จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจและการเริ่มเปิดประเทศ
ขณะที่ ธุรกิจโรงแรม การบิน และค้าปลีก ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 และมาตรการจำกัดการเดินทางในปี 2564 น่าจะใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่าธุรกิจอื่น
ทั้งนี้ ต้นทุนพลังงานที่สูงยังเป็นแรงกดดันต่อการเติบโตของกำไรของธุรกิจต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในปี 2565 โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินกิจการไฟฟ้าและผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก (Small power producers) ที่มีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้อุตสาหกรรมในสัดส่วนที่สูง
อย่างไรก็ดี บริษัทไทยที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิตส่วนใหญ่มีการบริหารจัดการกระแสเงินสดอย่างรอบคอบในช่วงสถานการณ์โรคระบาด โดยมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายลงทุน และการปรับลดอัตราการจ่ายเงินปันผล ขณะที่การเข้าซื้อกิจการกลับเพิ่มมากขึ้น เพื่อฉวยโอกาสในการขยายธุรกิจ หรือการดำเนินการตามแผนการลดปริมาณการใช้คาร์บอน โดยการเข้าซื้อกิจการเหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมเป็นหลัก ส่งผลให้บางบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งฟิทช์คาดว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากการฟื้นตัวของผลประกอบการจะช่วยลดผลกระทบจากการลงทุนและการจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นในปี 2565
“การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตในทางลบลดลงในปี 2564 และมีการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตในทางบวกสำหรับบางบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 อย่างไรก็ตาม บริษัทที่มีแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบยังคงมีจำนวนมากกว่าช่วงก่อนสถานการณ์โรคระบาด แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบในกลุ่มธุรกิจน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและปิโตรเคมีส่วนใหญ่เกิดจากการลงทุนขนาดใหญ่ ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกอาหาร สะท้อนถึงอัตราส่วนหนี้สินที่สูงขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการและผลประกอบการที่ยังคงอ่อนแอจากสถานการณ์โรคระบาด” นายเลิศชัย กล่าว