ผู้ถือหุ้นทิ้งเงินปันผล220 ล้านบาท

22 พฤศจิกายน 2553

ตลาดหลักทรัพย์เผย มียอดเช็คเงินปันผลที่ไม่มีผู้รับเงินตั้งแต่ 2543-30ส.ค.2553 สูงถึง 220 ล้านบาท เชื่ออาจเป็นเพราะข้อมูลผู้ถือหุ้นไม่ครบถ้วน

ตลาดหลักทรัพย์เผย มียอดเช็คเงินปันผลที่ไม่มีผู้รับเงินตั้งแต่ 2543-30ส.ค.2553 สูงถึง 220 ล้านบาท เชื่ออาจเป็นเพราะข้อมูลผู้ถือหุ้นไม่ครบถ้วน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ตลาดพบว่ามีเช็คเงินปันผลที่ไม่มีผู้รับเงินมีมูลค่าสูงถึง 220ล้านบาท นับตั้งแต่สิ้นปี 2543 -วันที่ 30 สิงหาคม 2553  ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะข้อมูลผู้ถือหุ้นที่ไม่ครบถ้วนและไม่ถูกต้อง อีกทั้งผู้ถือหุ้นบางส่วนละเลยในการติดตามสิทธิประโยชน์ที่ได้รับของตน ทำให้ผู้ถือหุ้นไม่ได้รับเงินปันผลและยังพลาดโอกาสในการรับสิทธิประโยชน์อื่นๆ จากบริษัทจดทะเบียน พร้อมยังมีค่าเสียโอกาสจากการนำเงินปันผลนี้ไปลงทุนเพิ่มเติมด้วย (Reinvestment Cost) 

ปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นสามารถเลือกได้ว่าจะรับเช็ค  หรือโอนเข้าบัญชีธนาคารตามที่ระบุ (e-Diviend) ซึ่ง ในช่วงปี 2549 – สิงหาคม 2553 พบว่า เงินปันผลจ่ายส่วนใหญ่เป็นการจ่ายเป็นเช็ค คิดเป็นเฉลี่ย 88% ของมูลค่าเงินปันผลจ่าย) และมีเพียง12% ที่โอนเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคาร  ซึ่งจากข้อมูลการโอนเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคาร พบว่า มีรายการที่ไม่สามารถโอนเงินปันผลได้สำเร็จเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยมีสาเหตุหลักจากเลขที่บัญชีไม่ถูกต้องหรือบัญชีปิดไปแล้ว ดังนั้น เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการรับเงินปันผล นักลงทุนอาจสมัครเข้าร่วมโครงการรับเงินปันผลโดยการให้โอนเข้าบัญชีธนาคาร และผู้ถือหุ้นควรมีการตรวจสอบชื่อธนาคาร ตลอดจนเลขที่บัญชีธนาคารให้ถูกต้อง และให้มั่นใจว่าบัญชีของผู้ถือหุ้นที่ระบุให้โอนเงินปันผลไปนั้นยังเป็นบัญชีที่ผู้ถือหุ้นใช้งานอยู่ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้สะดวก ประหยัดเวลา และป้องกันการสูญหายของเช็คได้อีกด้วย

สำหรับกรณีรับเงินปันผลเป็นเช็ค พบว่า โดยเฉลี่ยแล้วมีเช็คตีคืนกลับมาที่นายทะเบียนหลักทรัพย์ หรือ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย)หรือ TSD ประมาณ 5% ของจำนวนเช็คที่จัดส่งให้ผู้ถือหุ้น หรือประมาณ 45,000 ฉบับต่อปี (ในแต่ละปีมีการจ่ายเงินปันผลโดยเช็คเงินปันผลประมาณ 1,271,000 ฉบับ) หรือคิดเป็นมูลค่าเงินปันผลเฉลี่ยที่ตีคืนมาปีละ 318 ล้านบาท 

ในช่วงมกราคม – สิงหาคม 2553 พบว่า มีเช็คตีคืนกลับมา 29,805 ฉบับ มูลค่ารวม 268 ล้านบาท โดยสาเหตุส่วนใหญ่ของการตีคืนเช็คกลับมาที่ TSD เป็นผลจากการที่ผู้ถือหุ้นมีการย้ายที่อยู่และไม่มีการแจ้งแก้ไขที่อยู่ใหม่ ทำให้การจัดส่งเช็คเงินปันผลไปยังผู้ถือหุ้นทางไปรษณีย์ไม่ถึงมือผู้ถือหุ้น 

อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นบางส่วนที่ให้ความสำคัญและติดตามสิทธิประโยชน์ของตนอย่างสม่ำเสมอ และ ได้มีการติดตามเอกสารและเช็คตีคืน จึงส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2553 มีเช็คเงินปันผลคงค้างรวม 170,117 ฉบับ มีมูลค่ารวม 220 ล้านบาท

"5 หุ้นตัวแรกที่มีมูลค่าเงินปันผลตีคืนสูงสุดที่คงค้าง ถึง 117 ล้านบาท และพบว่า เช็คที่มีมูลค่าเงินปันผลมากที่สุดที่ถูกตีคืน มีมูลค่าสูงถึง 39 ล้านบาท และเช็คเงินปันผลที่ตีคืนมาที่คงค้างอยู่มีอายุมากที่สุด คือ เช็คตีคืนตั้งแต่สิ้นปี 2543 หรือเกือบ 10 ปี

สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินปันผลสามารถติดต่อรับเอกสารและเช็คที่ถูกตีคืนมาที่ TSD ผู้ถือหุ้นต้องติดต่อด้วยตนเอง หรือมอบฉันทะให้บุคคลอื่นมาดำเนินการแทน ที่ TSD Counter Services ชั้น 4 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ปัจจุบันผู้ถือหุ้นสามารถตรวจสอบข้อมูลของตนได้หลายช่องทาง อาทิ ที่  TSD Call Center หมายเลขโทรศัพท์     0 2229 2888 หรือส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ถึง TSDCallCenter@set.or.th หรือผู้ถือหุ้นสามารถติดต่อได้โดยตรงที่ TSD Counter Services ชั้น 4 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือในบูธงานมหกรรมต่างๆ นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นยังสามารถตรวจสอบข้อมูลผ่านระบบ “TSD Investor Portal” ซึ่งเป็นช่องทางใหม่ในการให้บริการแก่ผู้ถือหุ้นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม ซึ่งในระบบนี้ ผู้ถือหุ้นสามารถตรวจสอบข้อมูลของตน อาทิ ข้อมูลส่วนตัว วิธีการรับเงินปันผล ยอดหุ้นภายใต้บัญชีผู้ออกหลักทรัพย์

Thailand Web Stat