8 ข้อ (ควรระวัง) กับการลงทุนในกองทุนรวม

28 กุมภาพันธ์ 2560

โดย...พนิต ปัญญาบดีกุล กองทุนบัวหลวง

โดย...พนิต ปัญญาบดีกุล กองทุนบัวหลวง

การลงทุนในกองทุนรวมมีพื้นฐานที่นักลงทุนควรต้องมีมุมมองการลงทุนในระยะปานกลางและระยะยาว ดังนั้นข้อควรระวังบางส่วนในที่นี้ น่าจะเป็นกรอบความคิดที่เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตามโดยธรรมชาติแล้วคงไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ ที่ไม่มีข้อยกเว้น

1.(ไม่) อดทนเพื่อกำไรระยะยาว

ครั้งแล้วครั้งเล่าที่นักลงทุนทำกำไรได้โดยขายหรือไถ่ถอนกองทุนรวมที่มีราคาต่อหน่วยเพิ่มสูงขึ้นจากต้นทุนที่ตนเองซื้อ และถือกองทุนรวมที่มีราคาต่อหน่วยลดลงจากที่ตนเองซื้อโดยคาดหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้นโดยเร็ววัน แต่เหตุการณ์กลับเป็นไปดังนี้ กองทุนรวมที่ได้ขายออกไปกลับมีราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและกองทุนรวมที่ถือไว้ราคายังไม่เปลี่ยนแปลงและมีบางวันราคากลับลดต่ำลง ทำให้นักลงทุนอดทนไม่ไหวและขายขาดทุนไป

2.(ไม่) ศึกษาข้อมูลด้วยตนเอง

ไม่ได้ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนในกองทุนรวมด้วยตนเอง ถึงแม้ว่าในบางครั้งโชคอาจจะมีส่วนทำให้ได้กำไรในการลงทุน แต่ผลสำเร็จในระยะยาวคงต้องให้ความสำคัญกับข้อมูลในทุกด้านเสมอ

3.(ไม่) เชื่อมั่นและไม่วิตกกังวลเกินไป

วิตกและหวั่นไหวเมื่อราคาแกว่งตัวลดลงในระยะสั้น ใช้เวลาทุกวัน หรือแทบจะตลอดเวลาในการติดตามราคาและต้องการให้ราคาเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่เป็นบวกเสมอ โดยลืมการโฟกัสในเรื่องโอกาสของผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ความเชื่อมั่นในกองทุนรวมที่ดีที่ได้ลงทุน และปรัชญาการลงทุน

4.(ไม่) เลือกคุณภาพมากกว่าราคา

ลงทุนในกองทุนรวมที่มีราคาต่อหน่วยต่ำๆ เพราะคิดว่าเวลาที่ตลาดเป็นช่วงขาลงแล้วจะทำให้ราคาลดลง และส่งผลให้ขาดทุนน้อยกว่าการที่ลงทุนในกองทุนรวมที่มีราคาต่อหน่วยสูงกว่า ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง เช่น เงินลงทุน 1 แสนบาท การขาดทุน 100% ก็ทำให้เหลือ 0 บาท เท่ากัน

5.(ไม่) มั่นคงและยึดมั่น

สับเปลี่ยนไปมาระหว่างกองทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มกองทุนประเภทที่ลงทุนในสินทรัพย์เดียวกันและกองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์แตกต่างกัน เป็นนักลงทุนที่จับจังหวะตลาดตลอดเวลา ซึ่งเป็นแนวคิดที่นักลงทุนส่วนใหญ่ควรหลีกเลี่ยงและอาจจะนำไปสู่ประสบการณ์ในการลงทุนที่เลวร้ายได้

6.(ไม่) ให้ความสำคัญกับอนาคต

ตัดสินใจลงทุนโดยใช้ข้อมูลอ้างอิงจากเหตุการณ์หรือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต โดยเฉพาะเรื่องผลการดำเนินงาน อย่างไรก็ตามเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่นักลงทุนควรจะต้องทราบว่า ถึงแม้เราจะใช้ข้อมูลในอดีตเพื่อเป็นแนวทาง แต่การตัดสินใจลงทุนควรต้องอยู่บนพื้นฐานของแนวโน้ม และศักยภาพในการลงทุนในอนาคตเป็นจุดสำคัญมากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต

7.(ไม่) มีมุมมองระยะยาว

หลงใหลกับกำไรก้อนโตในการลงทุนระยะสั้น โดยเฉพาะจะเกิดขึ้นเสมอๆ กับนักลงทุนหน้าใหม่ ทำให้เกิดพฤติกรรมซื้อๆ ขายๆ และในที่สุดจะไม่เป็นผลดี เพราะผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่เป็นไปตามคาด อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความถึงความเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างกำไรจากการซื้อๆ ขายๆ ในระยะสั้น แต่ตามที่เคยกล่าวถึงว่า Trading และ Investing มีข้อแตกต่างกันมาก การสร้างผลตอบแทนจาก Trading จะเกี่ยวข้องกับประสบการณ์และความเสี่ยงที่แตกต่างจากนักลงทุนที่ซื้อและถือยาวและต้องการความเชี่ยวชาญที่พิเศษมากๆ

8.(ไม่) ยึดเป้าหมายมากกว่า

ซื้อกองทุนรวมเพียงเพราะเรื่องสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี และขายคืนทันทีเมื่อครบเงื่อนไขอายุที่ต้องถือครอง ถึงแม้ว่าสิทธิประโยชน์ต่างๆ จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่อยากให้เป็นเรื่องที่สำคัญรองลงมาจากเรื่องเป้าหมายในการลงทุนเพื่อทำให้เงินงอกเงยและสร้างความมั่นคงในอนาคต และจะส่งผลให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การลงทุนสำหรับแต่ละบุคคลย่อมมีวิธีการที่แตกต่างกันในการทำให้บรรลุเป้าหมาย โดยที่สัดส่วนในการลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ก็ไม่เหมือนกัน และไม่สามารถจะบอกได้ว่าวิธีการของใครจะดีกว่ากันดังนั้นจึงหวังว่ามุมมองในแต่ละข้อน่าจะเป็นประโยชน์ในเบื้องต้นสำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจการลงทุนค่ะ

Thailand Web Stat