ดันกฎหมายดึงภาษีบุหรี่ถม"กองทุนบัตรทอง"
รัฐบาลจ่อออก พ.ร.บ.เก็บเงินสมทบจากยาสูบมวนละ30สตางค์ โปะกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
รัฐบาลจ่อออก พ.ร.บ.เก็บเงินสมทบจากยาสูบมวนละ30สตางค์ โปะกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. รัฐบาลเปิดรับฟังความคิดเห็น ร่าง พ.ร.บ.จัดเก็บเงินสมทบเพื่อสนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการภาครัฐ พ.ศ ... โดยสาระคำคัญ ของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ได้ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดเก็บเงินสมทบจากยาสูบ ในอัตรามวนละ 30 สตางค์ โดยให้ผู้บริโภคเป็นผู้มีหน้าที่ชำระเงินสมทบ และให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมผลิตยาสูบ หรือผู้นำเข้ายาสูบ เป็นผู้เรียกเก็บเงินสมทบ ภายหลังมอบหมายให้กระทรวงการคลัง หาช่องทางเพิ่มงบประมาณเข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพ
นอกจากนี้ ในมาตรา 6 ของร่าง พ.ร.บ. ได้กำหนดให้กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร เป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บเงินสมทบ แทนสปสช. จากผู้ประกอบอุตสาหกรรม หรือผู้นำเข้ายาสูบ โดยให้กรมที่จัดเก็บหักค่าใช้จ่ายไว้ในอัตรา 1.5% ของเงินสมทบที่จัดเก็บได้ และนำส่งตามมาตรา 39 (2) ของกฎหมายหลักว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยไม่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวยังกำหนดไว้ด้วยว่า หากผู้ประกอบการไม่เรียกเก็บเงินสมทบ ส่งเงินสมทบช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนด หรือส่งเงินสมทบไม่ครบตามจำนวนให้เสียเงินสมทบเพิ่มในอัตรา 2% ต่อเดือนของจำนวนเงินที่ไม่เรียกเก็บ ส่วนผู้ประกอบการที่มีเจตนาเลี่ยงไม่ส่งเงินสมทบ หรือส่งเงินไม่เต็มจำนวน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับตั้งแต่ 5-20 เท่า ของเงินที่จะต้องนำส่ง
สำหรับงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2562 ซึ่งคณะรัฐมนตรีอนุมัติ อยู่ที่ 181,584,093,700 บาท เพื่อดูแลประชาชนตามสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ากว่า 48 ล้านคน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งให้เร่งจัดทำพระราชบัญญัติดังกล่าว และได้ให้ ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข แจ้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมรับมือกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ทั้งกระทรวงสาธารณสุขและสปสช.