ทริสชี้อสังหาฯยังโต

15 เมษายน 2558

ทริส คาดธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ปีนี้ทรงตัวหรือโตเล็กน้อยจากปีก่อน หลังดอกเบี้ยลด-ต้นทุนค่าแรงก่อสร้างทรง

ทริส คาดธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ปีนี้ทรงตัวหรือโตเล็กน้อยจากปีก่อน หลังดอกเบี้ยลด-ต้นทุนค่าแรงก่อสร้างทรง

บทวิจัยบริษัท ทริส เรทติ้ง คาดการณ์ว่าธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 จะทรงตัวหรือเติบโตเล็กน้อยจากปีก่อน โดยได้ดีจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง ต้นทุนค่าแรงและวัสดุก่อสร้างที่ค่อนข้างทรงตัว และบรรยากาศทางการเมืองที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยกังวลสำคัญที่มีผลต่อธุรกิจก็มี อาทิ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าคาด ภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และจำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขายที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน

“เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2558 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศปี 2558 ลงจาก 4% เป็น 3.8% สะท้อนถึงการฟื้นตัวของภาคการส่งออกที่ช้ากว่าคาดการณ์ การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะเติบโตต่ำกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า โดยปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญจะมาจากการลงทุนของภาครัฐและธุรกิจท่องเที่ยว ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังไม่มีปัจจัยกระตุ้นความต้องการซื้อ”

แม้ว่าสภาพตลาดโดยรวมจะดูซบเซาลง แต่ผลประกอบการของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยทริส เรทติ้ง ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดย ณ สิ้นปี 2557 ทริสมีการจัดอันดับเครดิตให้แก่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวน 17 ราย ซึ่งผู้ประกอบการทั้ง 17 ราย มียอดขายที่อยู่อาศัยรวมประมาณ 60-65% ของยอดขายที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยอดขายที่ค่อนข้างสูงในช่วงปี 2555-2556 ส่งผลให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีผลการดำเนินงานในปี 2557เป็นไปตามที่ประมาณการไว้ ยกเว้นบริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ (A) บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ (CI) บริษัท พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค (PF) และบริษัทปริญสิริ (PRIN) ที่ผลประกอบการอ่อนแอ

สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่มีอัตรากำไรที่ดีขึ้นในปี 2557 เพราะมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดลดลงตามจำนวนโครงการที่เปิดน้อยลง แต่ภาระเงินกู้รวมเฉลี่ยของผู้ประกอบการทั้ง 17 ราย กลับเพิ่มขึ้นเป็น 52.9% ของเงินทุนโดยรวมจาก 50.3% ในปี 2556 เนื่องจากสินค้าคงเหลือ (รวมที่ดิน โครงการระหว่างก่อสร้าง และจำนวนที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จแล้ว) เพิ่มขึ้นเกือบ 20% โดยสินค้าคงเหลือดังกล่าวเป็นต้นทุนที่จะต้องใช้เวลาในการระบายประมาณ 3.19 ปี ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2556 ที่ใช้เวลาประมาณ 3.16 ปี

ขณะที่เศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้ยอดขายรวมในปี 2557 ของทั้ง 17 ราย ลดลงเหลือ 2.01 แสนล้านบาท ลดลง 16% จากปี 2556 ที่มียอดขาย 2.4 แสนล้านบาท โดยยอดขายที่ลดลงส่วนใหญ่มาจากยอดขายคอนโดมิเนียมที่ลดลงมาอยู่ที่ 8.4 หมื่นล้านบาท ลดลงกว่า 34% เทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนยอดขายบ้านหรือที่อยู่อาศัยแนวราบยังเติบโต 5%

ผู้ประกอบการทั้ง 17 ราย มียอดขายที่รอรับรู้เป็นรายได้คงเหลือสูง โดย ณ สิ้นปี 2557 ยอดขายสะสมที่รอรับรู้เป็นรายได้ของผู้ประกอบการ 17 ราย อยู่ที่ 2.3 แสนล้านบาท ลดลงเพียง 7% จากปี 2556 โดยยอดขายสะสมดังกล่าวน่าจะโอนและทยอยรับรู้เป็นรายได้ใน 2 ปี 

Thailand Web Stat