กระเหรี่ยงบีจีเอฟขู่ปิดสะพานมิตรภาพ2แห่งหากไทยตัดไฟตามคำขอเมียนมา

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี กรณี การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีหนังสือถึง นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผวจ.ตาก ขอให้ยกเลิกการส่งกระแสไฟฟ้าข้ามแม่น้ำเมย ไปยังพื้นที่การลงทุนขนาดใหญ่ของชาวจีนที่บ้านส่วยโก๊กโก่ เขตอิทธิพลของทหารกะเหรี่ยงพิทักษ์ชายแดน (บีจีเอฟ) ของพันเอกหม่องชิตู ผู้นำทหารบีจีเอฟ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับทหารเมียนมา ตรงข้ามบ้านวังผา หมู่ที่ 4 ตำบลแม่จะเรา อ.แม่ระมาด และคาบเกี่ยวลงมาทางใต้ถึงบ้านวังแก้ว ตำบลแม่ปะ ของอ.แม่สอด และ พื้นที่ตรงข้ามบ้านเลเกก่อ จ.เมียวดี ตรงข้ามแม่กุใหม่ท่าซุง ตำบลแม่กุ อ.แม่สอด ด้วยเหตุผลจากฝ่ายเมียนมาไม่ต้องการต่อสัมปทานให้บริษัทเอกชนไทยแห่งหนึ่ง
 

ล่าสุด ทางฝ่ายกะเหรี่ยงบีจีเอฟ แจ้งมายังฝ่ายไทยอย่างไม่เป็นทางการว่า หากทางไทยงดจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับพื้นที่กะเหรี่ยง ทางกะเหรี่ยงเข้าไปปิดด่านพรมแดนแม่สอด-เมียวดี สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 บ้านริมเมย และสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 หมู่ที่ 7 บ้านวังตะเคียนใต้ ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอดทันที 
 

ด้านพ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ แก้วอ่อน ผกก.สภ.แม่สอด กล่าวว่า ทางเมียนมาได้ให้นายทุนสัมปทานจ่ายไฟฟ้าจากเขตไทยไปยังฝั่งเมียนมา บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 และสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ตรงข้าม อ.แม่สอด  และตรงข้ามตำบลแม่กุ อ.แม่สอด 1 จุด  บ้านวังผา อ.แม่ระมาด 1 จุด โดยทั้งหมดได้รับสัมปทานจากทางการเมียนมามานานแล้ว แต่จะหมดอายุ วันที่ 5 มิถุนายน 2566 ทางการเมียนมาจะยกเลิกสัญญาไม่ต่อสัมปทานให้ตรงข้ามตำบลแม่กุ และบ้านวังผา 

พ.ต.อ.มนศักดิ์ ยังกล่าวว่า พื้นที่ที่จะถูกงดจ่ายกระแสไฟฟ้านั้นเป็นของกลุ่มทุนจีน มีคนไทย และคนต่างชาติทำงานจำนวนมาก แต่หลังจากทางเจ้าหน้าที่ไทยในพื้นที่ อ.แม่สอด ทราบเรื่อง ได้ประสานคุยกับฝ่ายกะเหรี่ยง ทราบว่าทางฝ่ายกะเหรี่ยงได้เตรียมการไฟฟ้าสำรองไว้ แต่หลังจากนั้น 2 – 3 วัน อาจจะส่งผลกระทบได้ ทางตำรวจสภ.แม่สอด ร่วมกับหน่วยทหาร และฝ่ายปกครอง ได้มีแนวทางในการรับมือกับผลกระทบที่จะเข้ามาเขตไทย คือ การทะลักของชาวเมียนมา และชาวต่างชาติ ถ้ามีชาวเมียนมาทะลักเข้ามา ก็ต้องผลักดันกลับไป ส่วนชาวต่างชาติ จะจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป