นครราชสีมา-ดีป้าเปิดตัวรถโรงเรียนอัจฉริยะ
นครราชสีมา-ดีป้า เปิดโครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย หรือ Smart School นำเทคโนโลยีดิจิทัลประยุกต์ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้กับรถรับส่งนักเรียน ลดความสูญเสียจากเหตุการณ์เด็กถูกลืมและทิ้งให้อยู่ในรถ
นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเปิดโครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย หรือ Smart School Bus 1 ใน 8 โครงการของ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ที่ดำเนินการภายใต้แนวคิด Digital Infinity- ดิจิทัลไม่มีที่สิ้นสุด ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กองทุนดีอี) ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้กับรถรับส่งนักเรียน เพื่อลดความสูญเสียจากเหตุการณ์เด็กถูกลืมและทิ้งให้อยู่ในรถตามลำพัง อีกทั้งคลายความกังวล และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครอง นำร่อง 7 พื้นที่เมืองอัจฉริยะ และพื้นที่ใกล้เคียงที่มีความพร้อม
นายฉัตรชัย กล่าวว่า การส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคม เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของกระทรวงดิจิทัล มอบหมายให้ ดีป้า ส่งเสริมประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ยกระดับการเดินทางเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยให้แก่นักเรียน ซึ่งนับว่าเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ในด้าน Smart Mobility
"โครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย มีจุดเด่นที่การติดตั้งระบบ GPS ติดตามรถและเด็กนักเรียน พร้อมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ประมวลผล รายงานผลการขับขี่ ข้อมูลรถ ความเร็ว รวมถึงสถานะของเด็กนักเรียน ก่อนส่งไปยังแอปพลิเคชันสำหรับผู้ปกครอง และเว็บเบราเซอร์สำหรับโรงเรียน เข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย อีกทั้งเป็นการช่วยแก้ไขปัญหา และป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด รวมถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที อุปกรณ์ติดตามตำแหน่ง ช่วยให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางสามารถจัดการข้อมูลการใช้งานทั้งหมด
ผู้ปกครองสามารถอุ่นใจนักเรียนได้รับความปลอดภัยตลอดการเดินทาง คนขับรถรับส่งนักเรียนสามารถ ตรวจสอบนักเรียนขึ้นรถ และรายงานสถานะผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผู้ปกครองจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อรถใกล้มารับนักเรียนที่บ้าน นักเรียนลงรถที่โรงเรียน และนักเรียนถึงบ้าน ระบบป้องกันการลืมเด็กในรถโรงเรียน ตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในรถ อุปกรณ์ติดตามนักเรียนแจ้งผ่านอุปกรณ์ติดรถ การกดแจ้งเหตุฉุกเฉิน โรงเรียนสามารถโทรเข้าไปที่รถ ซึ่งระบบจะรับสายอัตโนมัติ
โครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย (Smart School Bus) มีเป้าหมายนำร่องโรงเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาและมัธยมศึกษาของรัฐรวมกว่า 300 โรงเรียนได้รับการติดตั้งระบบ Smart School Bus ไม่น้อย กว่า 3,000 คัน ประเมินมีนักเรียนได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวไม่น้อยกว่า 30,000 คน
โรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาภาคเอกชนกว่า 50 โรงเรียน จะได้รับการติดตั้งระบบ Smart School Bus กว่า 500 คัน ซึ่งคาดว่าจะมีนักเรียนได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 5,000 คน บุคลากรที่เกี่ยวข้อง อาทิ ครูผู้ดูแลโครงการ บุคลากรฝ่ายเทคโนโลยีสารสารสนเทศควบคุมระบบ ผู้ให้บริการรถรับส่งนักเรียน ผู้ปกครอง ฯลฯ ได้รับประโยชน์มากกว่า 14,000 คน สำคัญ
โครงการฯ นี้จะทำให้เกิด Smart School Bus Big DATA ที่เกิดจากระบบ sensor ทั้งกับนักเรียน และรถโรงเรียน ข้อมูลถูกนำไปประมวลผลที่ Smart School Bus Intellsent Operation Center ในแต่ละพื้นที่ ทำให้เกิดการบูรณาการข้อมูลอย่างเป็นระบบ และยังสามารถนำ ข้อมูลได้ ไปปรับใช้กับบริบทของโรงเรียน ผู้ปกครอง และความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่เมืองอัจฉริยะได้ดีมากยิ่งขึ้น เป็นอย่างยิ่งว่า โครงการรถโรงเรียนวุ่นใหม่เด็กปลอดภัย (Smart School Bus) ที่มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้กับรถโรงเรียนช่วยลดความสูญเสียจากเหตุการณ์เด็กถูกลืมและทิ้งให้อยู่ในรถโรงเรียนตามลำพัง ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ โดย ดีป้า เร่งขยายผลไปยังโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ และตั้งเป้าครอบคลุมทุกโรงเรียนทั่วประเทศ
ด้าน นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตามที่ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้จัดทำโครงการ "รถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย" โดยการนำเทคโนโลยี Sensor และระบบ IoT เข้ามาติดตั้ง ภายในรถโรงเรียน เพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กนักเรียน ที่ใช้บริการรถรับ -ส่ง นักเรียน ในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งโครงการนี้ จะทำให้ลูกหลานของชาวโคราช ไม่ต้องประสบกับปัญหาเด็กติดในรถ จนเสียชีวิต
ซึ่งทางจังหวัดนครราชสีมา ต้องขอขอบคุณทางกระทรวงดิจิทัล เลือกจังหวัดนครราชสีมาเป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่อง นำนวัตกรรมหรืออุปกรณ์เทคโนโลยี มาติดตั้ง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับการเดินทางของนักเรียน โครงการนี้จะมีส่วนช่วยให้ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานที่ใช้บริการรถโรงเรียนคลายกังวล และยังสามารถติดตามการเดินทางของบุตรหลานได้อีกด้วยซึ่งหากมีเทคโนโลยีชิ้นนี้ติดตั้งในรถ ปัญหาเด็กติดอยู่ในรถจนต้องเสียชีวิตคงหมดไปอย่างแน่นอน นอกจากช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการเดินทางของนักเรียนแล้ว เรายังสามารถนำเอาข้อมูลของการเดินรถที่ได้จาก Sensor มาใช้ประกอบการวางแผนการเดินทาง ในรูปแบบ Smart Mobility ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับจังหวัดนครราชสีมา ให้สามารถเป็น Smart City ได้ในอนาคต