posttoday

เตือนท้ายเขื่อนเจ้าพระยายกของขึ้นที่สูงปรับระบายเพิ่มเป็น1,883 ลบ.ม.

28 กันยายน 2567

สถานการณ์น้ำเหนือไหลบ่าผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น ปรับการระบายน้ำเพิ่มเป็น 1,883 ลบ.ม.มากกว่าเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.67) เตือน2ริมฝั่งอยู่ในสถานะเฝ้าระวัง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ น้ำทะเลหนุนวันแรกเตือน7จังหวัดเตรียมรับมือ

เมื่อวันที่ 28 ก.ย.67 กรมชลประทานรายงานว่า เขื่อนเจ้าพระยา ปรับการระบายน้ำเพิ่มเป็น 1,883 ลบ.ม./วินาที ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มการระบายน้ำขึ้น 184 ลบ.ม./วินาที จากเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.67) ที่มีระบายน้ำ1,699 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้น1ซม.  

ที่สถานี  C2 อ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อเวลา 06.00น.มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,934 ลบ.ม./วินาที น้อยกว่าเมื่อวานนี้ (27ก.ย.67) มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,930 ลบ.ม./วินาทีเพิ่มขึ้นจากเมื่อ26ก.ย.67 จำนวน22 ซม. 

การปรับระบายน้ำเพิ่มทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้น เขื่อนเจ้าพระยา ตั้งเป้าการปรับการระบายน้ำให้อยู่ในอัตรา 1,800 ลบ.ม./วินาที แต่เนื่องจากพื้นที่ทางตอนบนยังคงมีฝนตกกระจายหลายพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาจึงจะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันได  ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้

 

ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับพื้นที่ริมน้ำทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา/แม่น้ำน้อย รวมทั้งพื้นที่เสี่ยงบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ

  • คลองโผงเผง จ.อ่างทอง
  • คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
  • ต.หัวเวียง อ.เสนา , ต.ลาดชิด , ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ. พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย)

ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำและพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ เฝ้าระวังระดับน้ำจากฝนที่ตกสะสมในพื้นที่และปริมาณน้ำจากทางตอนบนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยากรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป

ทั้งนี้ กรมอุทกศาตร์ทหารเรือ ได้คาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 28 กันยายน – 2 ตุลาคม 2567 จะเกิดสถานการณ์น้ำทะเลหนุนอีกครั้ง ซึ่งอาจส่งผลให้พื้นที่เสี่ยงบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำท่าจีน ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ แนวเขื่อนชั่วคราว และบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังระดับน้ำด้วยเช่นกัน