posttoday

ขอแสดงความอาลัย สิ้น"นพ.บุญยงค์ วงศ์รักมิตร" หมอนักพัฒนาแห่งเมืองน่าน

14 ตุลาคม 2567

ย้อนประวัตินายแพทย์บุญยงค์ วงศ์รักมิตร หมอนักพัฒนาแห่งเมืองน่าน เกิดลำปาง จบแพทย์จุฬา ปฏิเสธความก้าวหน้าบนเส้นทางวิชาชีพ อดีตผู้เคยถวายงานรัชกาลที่ 9 น้อมกระแสพระราชดำรัสรับใส่เกล้า "เงินที่ขอไป...ฉันไว้ใจเธอ"

นายแพทย์บุญยงค์ วงศ์รักมิตร วัย 91 ปี  หมอนักพัฒนา อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน ถึงแก่อนิจกรรมแล้วกำหนดการบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจ
ณ ศาลาวัดภูมินทร์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2567
พิธีรดน้ำศพ เวลา 13.00 น.
วันที่ 14-18 ตุลาคม พ.ศ.2567
แสดงพระธรรมเทศนา และพิธีสวดพระอภิธรรม
เวลา 19.30 น.
วันที่19 ตุลาคม พ.ศ.2567
พิธีฌาปนกิจ เวลา13.00 น.
ณ ฌาปนสถานลอมเชียงของ อ.เมืองน่าน จ.น่าน
" ขออนุญาตงดรับพวงหรีด "
ร่วมบริจาคทำบุญมอบให้องค์กรสาธารณกุศล
ชื่อบัญชี : บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร
บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
เลขที่บัญชี : 411-1-060405
พร้อมเพย์ : 085-0367401
เจ้าภาพกราบขออภัยที่ไม่ได้เรียนเชิญด้วยตนเอง

ขอแสดงความอาลัย สิ้น\"นพ.บุญยงค์  วงศ์รักมิตร\" หมอนักพัฒนาแห่งเมืองน่าน

สำหรับประวัตินายแพทย์บุญยงค์ 
เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2499 ที่จังหวัดลำปาง 
การศึกษา
แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2500
ประวัติการทำงาน 
แพทย์ประจำบ้านที่แผนกอายุรกรรม โรงพยาบาล จุฬาลงกรณ์ 
นายแพทย์โท โรงพยาบาลสกลนคร กรมการแพทย์  
ปฏิบัติงานร่วมกับกองอำนวยการกลางรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
(กรป.กลาง) ที่ตำบลนาคู อำเภอกุสินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ 
ผู้อำออำนวยการโรงพยาบาลเลย 
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน 
รวมระยะเวลารับราชการ 34ปี 7 เดือน

นพ.บุญยงค์ใช้ชีวิตราชการที่น่านต่อเนื่องจากปี 2507 จนถึงปี 2537 เป็นนายแพทย์ที่ปฏิเสธความก้าวหน้าบนเส้นทางวิชาชีพ และการเมือง ก่อนถึงแก่อนิจกรรมยังทำงานในฐานะที่ปรึกษา รพ.น่าน ตลอดระยะเวลาที่อยู่เมืองน่านจึงกลายเป็นผู้อาวุโสที่คนน่านทุกระดับยอมรับนับถือ เป็นผู้ที่ให้แนวคิด แนวทางพัฒนา แก้ไขปัญหาให้กับหลายองค์กร

 

สำหรับนายแพทย์บุญยงค์ เป็นผู้เคยถวายงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งเป็นผอ.โรงพยาบาลน่าน ได้เล่าถึงความภูมิใจและปลื้มปิติในพระกรุณามหาธิคุณของรัชกาลที่9 โดยเมื่อพ.ศ.2510 พสกนิกรชาวน่าน  ทหาร ตำรวจ ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในเขตพื้นที่จังหวัดน่าน

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเงิน 240,000บาทเพื่อสร้างตึกผู้ป่วยขนาด 24 เตียง  1 หลัง สำหรับรองรับ ทหาร ตำรวจ พลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบเป็นการเฉพาะ และทรงพระราชทานนามตึกหลังนี้ว่า “พิทักษ์ไทย”

แต่เหนืออื่นใด มากกว่าการขยายอาคารรับผู้ป่วย เมื่อพระองค์ท่านพระราชทานสิ่ งของให้แล้วก็ตรัสว่า “ เงินที่ขอไปนั้น ฉันนำมามอบให้แล้ว ขอให้หมอดำเนินการก่อสร้างเองนะ ไม่ต้องผ่านราชการ ฉันไว้ใจเธอ"

ถัดมา 10 มีนาคม พ.ศ.2512 อาคารใหม่สร้างเสร็จแล้ว เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่จังหวัดน่านได้กราบบังคมทูลฯเชิญ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นองค์ประธานในการเปิดอาคารศาลากลางจังหวัด และอาคารโรงเรียนราชานุบาล 

จังหวัดได้ถามว่าจะกราบบังคมทูลฯเชิญเพื่อทรงเปิดอาคารตึกพิทักษ์ไทยด้วยหรือไม่ก็เห็นว่าพระองค์ท่านต้องเสด็จถึงสองแห่งแล้วก็บอกไปว่าคงไม่ต้องกระมังแจ้งทางจังหวัดไปอย่างนั้น ปรากฏว่า ม.ล.ปีย์ มาลากุล กรมวังผู้ใหญ่มาบอกว่า คุณหมอ ในหลวงรับสั่งกับผมว่า“แล้วตึกฉันล่ะจะไม่ให้ฉันเปิดหรือ"

"ผมได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจเราไม่ได้เตรียมอะไรเลย ท่านก็แนะนำว่าไม่ต้องเตรียมอะไร ให้หาป้าย และพรมมาผืนหนึ่ง เพราะท่านจะประทับยืนทรงพระสุหร่าย หาสมุดมาเล่มหนึ่งสำหรับทรงลงพระนามปรมาภิไธย ส่วนอื่นๆจะจัดมาจากกรุงเทพมหานครซึ่งก็จัดเตรียมตามคำแนะนำทุกอย่างเพียงชั่วโมงเดียว ลงทุน 35 บาท ซึ้อสมุด 1 เล่ม ครั้นเสร็จพิธียังทรงพระราชทานเงินอีก 5 หมื่นบาท เพื่อซื้อสิ่งของที่จำเป็นอื่นๆ"

นายแพทย์บุญยงค์  เล่าวว่า พระราชดำรัสของพระองค์ มีความหมายกับชีวิตทั้งชีวิต ยิ่งถ้อยพระราชดำรัสว่า "ฉันไว้ใจเธอ" ก็ยิ่งทวีความหมาย "ทุกวันนี้พระสุรเสียงของพระองค์ยังดังก้องอยู่ไม่ มีวันลืม และจะจดจำตราบชั่วชีวิตจะหาไม่