เปิดจดหมายแม่สามารถ แจง8ข้อ ลั่นถูกกลั่นแกล้งไม่ได้รับความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 26พ.ย.2567 เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ควบคุมตัว นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดา ผู้ต้องในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และสบคบกันฟอกเงิน โยงคดี The iCon Group ไปฝากขังที่ศาลอาญา ในชั้นสอบสวน นายสามารถและนางวิลาวัลย์ ปฏิเสธทุกข้อหา และขอยื่นคำให้การแก้ข้อหาเป็นเอกสารภายใน 15 วัน

ระหว่างการควบคุมตัวไปศาล นางวิลาวัลย์ ถูกใส่กุญแจมือออกมาเป็นคนแรกก็ตะโกนว่า"ไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นเงินทำบุญตั้งแต่ปี 64" พร้อมกับยื่นกระดาษ 1 แผ่น ซึ่งเป็นจดหมายเขียนด้วยลายมือให้กับนักข่าว จากนั้น เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้ควบคุมตัวนายสามารถ ออกมา เป็นคนที่สองโดยบอกกับนักข่าวสั้น ๆ ว่า "อยากพูด แต่พูดไม่ได้"ก่อนที่จะถูกคุมตัวขึ้นรถไปฝากขัง

สำหรับเนื้อหาจดหมาย เขียนข้อความไว้ 8 ข้อ ระบุว่า 
1. ถ้าต้องพูดถึงเรื่องเกิดปี 2560 ตอนนั้นไอคอนกรุ๊ปยังไม่มีปัญหาทางธุรกิจ เงินที่ได้มา ทำบุญกับกู้ยืมพอลก็ได้เซ็นชื่อไว้เป็นหลักฐาน เพราะได้คืนหมดแล้วได้ทำหนังสือออกมาให้แล้ว 
2.ใครคือผู้เสียหาย 
3.จะฟอกเงินได้อย่างไร 
4.ไม่ได้รับความเป็นธรรมโดนกลั่นแกล้ง
5.ไม่มีส่วนรู้เห็นในธุรกิจดิไอคอน เพราะไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว 
6.จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานได้อย่างไร 
7. จะขอต่อสู้เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมจนกว่าชีวิตจะหาไม่
8.ถ้าต้องโทษจนถึงตาย ก็คือว่าประเทศไทยไม่มีความยุติธรรม

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ถูกจับกุมตัวได้ที่จังหวัดเชียงราย เมื่อ 25พ.ย.67 หลังศาลอาญา อนุมัติหมายจับข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ก่อนถูกคุมตัวมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา โดยมีนางวิลาวัลย์ ถูกจับกุมตัวได้ก่อนแล้วระหว่างเจ้าหน้าที่เดินทางไปที่บ้านพักในซอยพญานาค กทม.และได้นำตัวเข้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อเตรียมสอบสวนปากคำ

เปิดคำร้องฝากขัง คัดค้านประกันตัว

คำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่าจาก สืบสวนปรากฎพยานหลักฐานว่าบัญชีเงินฝ่ากธนาคารของนางวิลาวัลย์ฯ ซึ่งเป็นมารดาของนายสามารถฯ มีการโอนเงินมาจากหลายแหล่งเข้ามาในชีเงินฝากธนาคารประมาณกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นการรับโอนเงินจากนายวรัตน์พลฯ หรือบอสพอล จำนวน 2.5.5 ล้านบาท และจากนายณัญปพนต์ หรือ กลด (สงวนนามสกุล) หรือบอสปีเตอร์ ประมาณ 5 แสนบาท 

พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สอบสวนทราบว่า นายสามารถฯ เป็นผู้ใช้บัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าว และยังมีการทำธุรกรรมในการโอนเงินไปยังบัญชี นายสามารถ จำนวน 33 ครั้ง ประกอบกับพยานหลักฐานอื่นเชื่อว่าผู้ต้องหารู้หรือควรรู้ว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดแชร์ลูกโซ่ พฤติการณ์จึงเป็นการโอน รับโอนทรัพย์สินจากคดีความผิดมูลฐานซึ่งผิดกฎหมาย จึงถูกกล่าวหาในข้อหา "ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน" ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542โดยเจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุมได้บริเวณวัดแห่งหนึ่งในตำบลริมกก อำเภอเมือง จ.เชียงราย

แต่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้พิจารณา แล้วเห็นว่าจากพยานหลักฐานที่ได้จากการตรวจค้นในบ้านพัก ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ร่วมกันกับบุคคอื่นในการจัดทำเอกสารไม่สุจริตอันมีลักษณะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน จึงมีมตีไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว