สถานการณ์น้ำท่วมเทศบาลนครหาดใหญ่น่ากังวล ยกธงแดง สั่งอพยพประชาชน
เทศบาลนครหาดใหญ่ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4 ยกธงแดง ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่สั่งอพยพประชาชน ขณะน้ำท่วมพื้นที่รอบนอกแล้ว ด้านภูมิธรรมเผย รัฐบาลเตรียมช่วยเหลือน้ำท่วมเต็มที่ แต่ประเมินสถานการณ์ไม่หนักเท่าภาคเหนือ
เนื่องจากมีมวลน้ำจากนอกพื้นที่จำนวนมากได้ไหลเข้าสู่ ทั้งคลองอู่ตะเภา และคลองหวะ ตั้งแต่ต้นน้ำและกลางน้ำ ส่งผลให้คลองหวะ คลองอู่ตะเภา และคลองระบายน้ำที่ 1ได้เอ่อล้น อาจจะเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ได้
โดยทางเทศบาลให้ประชาชนที่อาศัยในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ให้อพยบเคลื่อนย้ายสิ่งของและเตรียมเข้าอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
ขณะที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ออกเตือนน้ำล้นตลิ่งคลองอู่ตะเภา ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ให้เตรียมรับสถานการณ์ ขนย้ายสิ่งของ/เคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางไปที่ปลอดภัย โดยมีประชาชนรายงานว่าน้ำเริ่มล้นตลิ่งบางจุด ล่าสุดน้ำจากคลองอู่ตะเภา และคลองระบายน้ำภูมินารถดำริ หรือคลอง ร.1 ได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่โซนหาดใหญ่ใน ทั้งหมดแล้ว ซึ่งเป็นโซนที่อยู่ชั้นนอกของตัวเมืองหาดใหญ่ และน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เส้นทางถนนเพชรเกษมขาเข้าเมืองหาดใหญ่ ทางด้านฝั่งหาดใหญ่ในถูกน้ำท่วมสูงถูกตัดขาดแล้วห้ามรถผ่าน ขณะที่โซนเศรษฐกิจชั้นในของเมืองหาดใหญ่ยังปลอดภัย แต่ยังอยู่ในภาวะวิกฤติ ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ หลายพื้นที่ว่า รัฐบาลห่วงใยประชาชนในพื้นที่ต่างๆ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้รัฐมนตรี ลงไปบัญชาการในพื้นที่ และฝากให้กำลังใจประชาชน ขอให้คำนึงห่วงความปลอดภัยชีวิตเป็นหลัก ส่วนเรื่องสิ่งของรัฐบาลจะช่วยดูแล
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ได้รับรายงานจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทราบว่าอาหารดิบไม่เพียงพอ เนื่องจากเส้นทางการขนส่งถูกตัดขาด ขณะนี้กำลังเร่งแก้ปัญหา และเชื่อว่าหลังจากนี้ ศอ.บต. จะมีการนำส่งอาหารเข้าไปช่วยเหลือเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ปัญหาในพื้นที่พบว่า การลำเลียงนำคนออกมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะบางส่วนโดยเฉพาะกลุ่มคนชรายังมีความเป็นห่วงที่พักอาศัย จึงได้ประสานเรือท้องแบน หน่วยงานทหารและภาคเอกชนเกือบ 50 ลำ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะส่งเรือเข้าไปช่วยอีกประมาณ 100 ลำ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในพื้นที่ยังน่าไม่กังวลเรื่องดินโคลน เหมือนอุทกภัยภาคเหนือ แต่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในช่วงสัปดาห์แรก จะต้องมีการประสานงานดูแลให้ดี
เมื่อถามว่า มีการประเมินสถานการณ์หรือไม่ว่าเหตุการณ์จะอยู่นานเพียงใด นายภูมิธรรม กล่าวว่า คาดว่าฝนจะตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่อีก 2-3 วัน และหากไม่มีอะไรมากกว่านี้ น้ำก็ไหลลงทะเล ทั้งนี้ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ตนจะมีการลงพื้นที่ไปตรวจดูและเยี่ยมประชาชน ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการ ให้เริ่มดำเนินการประเมินความเสียหายทันที ซึ่งรูปแบบคงไม่ต่างจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา โดยจะต้องกลับมาดูว่าจะให้ความช่วยเหลือรายบุคคล และความเสียหายของบ้านแต่ละกรณีได้จำนวนเท่าไหร่ ซึ่งการประเมินคงแตกต่างภาคเหนือที่มีดินโคลนถล่ม เนื่องจากเหตุการณ์ในพื้นที่ภาคใต้เป็นเพียงน้ำหลากที่มาแล้วไป