ภาคใต้ฝนตกหนักสุดที่ชุมพร กรมชลฯ เร่งระบายน้ำต่อเนื่อง
กรมชลฯ เร่งระบายน้ำต่อเนื่อง หลังฝนตกหนักภาคใต้หลายพื้นที่ ชุมพรปริมาณฝนมากสุด 664.4 มม. จม 5 อำเภอ เร่งคลี่คลายสถานการณ์ต่อเนื่องเพื่อให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือค่อนข้างแรงปกคลุมภาคใต้ กรมชลประทาน ยังคงระดมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องจักรอื่นๆ เข้าไปช่วยเหลือเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังต่อเนื่อง เพื่อให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว สรุปสถานการณ์ได้ ดังนี้
จ.ชุมพร ปริมาณฝนสะสม 48 ชั่วโมง (14-15 ธ.ค. 67) วัดได้ 664.4 มม. มีน้ำท่วม 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าแซะ อ.เมืองชุมพร อ.สวี อ.ทุ่งตะโก และ อ.หลังสวน ซึ่งเป็นน้ำท่วมขังในพื้นที่และน้ำล้นตลิ่งบริเวณคลองชุมพร คลองสวี คลองตะโก คลองหลังสวน
โครงการชลประทานชุมพร ติดตั้ง เครื่องสูบน้ำบริเวณ อำเภอเมืองชุมพร รวม 9 จุด 9 เครื่อง และ ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำรวม 3 จุด 12 เครื่อง
สถานการณ์น้ำในปัจจุบัน
- คลองชุมพร ปัจจุบันน้ำอยู่ระดับต่ำกว่าตลิ่งแล้ว
- คลองท่าแซะ มีน้ำล้นตลิ่ง ที่สถานี x.64 (บ้านท่าแซะ) 28 ซม. สถานี x.158 (บ้านวังครก) ประมาณ 35 ซม.
- คลองหลังสวน มีน้ำล้นตลิ่งประมาณ 2.26 ม.
- คลองตะโก มีน้ำล้นตลิ่งประมาณ 5 ซม.
- คลองสวี มีน้ำล้นตลิ่ง ประมาณ 2.59 ม.
จ.ระนอง ปริมาณฝนสะสม 48 ชั่วโมง (14-15 ธ.ค.67) วัดได้ 388 มม. มีน้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.กระบุรี เป็นน้ำท่วมขังและมีน้ำล้นตลิ่งของคลองญวนและคลองบางน้ำจืด
โครงการชลประทานระนอง ได้นำกระสอบทราย 500 ใบ เพื่อสนับสนุนในพื้นที่ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 2 เครื่อง ระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ ปัจจุบันระดับน้ำในคลองสายต่างๆ ต่ำกว่าตลิ่ง ส่งผลให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
จ.สุราษฎร์ธานี ปริมาณฝนสะสม 48 ชั่วโมง (14-15 ธ.ค.67) วัดได้ 338.5 มม. มีน้ำท่วม 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก และ อ.ท่าชนะ ซึ่งเป็นน้ำท่วมขังเดิม และบางพื้นที่มีน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำตาปี คลองท่าทอง และคลองท่ากระจาย ประมาณ 0.20-0.30 เมตร
โครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 7 เครื่อง และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง พร้อมทั้งทำการพร่องน้ำบริเวณฝายท่าทอง ฝายคลองไชยา เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
จ.นครศรีธรรมราช ปริมาณฝนสะสม 48 ชั่วโมง (14-15 ธ.ค.67) วัดได้ 299.0 มม. มีน้ำท่วม 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.ปากพนัง อ.ท่าศาลา และ อ.พระพรหม ซึ่งเกิดจากฝนที่ตกหนักในพื้นที่เข้าท่วมขัง และบางส่วนเกิดจากน้ำล้นตลิ่งในคลองท่าดี คลองเสาธง
โครงการชลประทานนครศรีธรรมราช ติดตั้งเครื่องสูบน้ำรวม 63 เครื่อง กระจายในพื้นที่เสี่ยง และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำรวม 19 เครื่อง ปัจจุบันระดับน้ำในคลองท่าดีที่สถานี X.285 คลองนครน้อย (คลองหน้าเมือง) อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ยังคงสูงกว่าตลิ่งประมาณ 0.66 ม. แนวโน้มยังคงเพิ่มขึ้น
กรมชลประทาน ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำภาคใต้อย่างใกล้ชิด ตามข้อห่วงใยของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักร เครื่องมือ เร่งระบายน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ