posttoday

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ พายุปาบึก ขึ้นฝั่งเวียดนาม กระทบไทยมีฝนเพิ่ม

24 ธันวาคม 2567

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนฉบับ7 พายุโซนร้อนปาบึก ขึ้นฝั่งเวียดนาม อ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้อีสาน เหนือ กลาง กทม.และปริมณฑล ตะวันออก มีฝนบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (24 ธ.ค. 67) พายุโซนร้อน “ปาบึก”บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 545 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 11.6 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 11 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  และคาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 24–25 ธ.ค. 67 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป

ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 25–26 ธ.ค. 67 มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกมีฝนเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ พายุปาบึก ขึ้นฝั่งเวียดนาม กระทบไทยมีฝนเพิ่ม

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย
06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

  • ภาคเหนือ

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส  
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ 
อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. 

  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า 
อุณหภูมิต่ำสุด 11-17 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

  • ภาคกลาง

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า 
อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส  
อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. 

  • ภาคตะวันออก

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า 
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร 

  • ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ตอนบนของภาคอากาศเย็นในตอนเช้า 
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

  • ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร 
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

  • กรุงเทพและปริมณฑล

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า 
อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.