ดับฝัน! 50 แรงงาน ถูก “เจ๊ออย” ตุ๋นพาทำงานเมืองนอก ก่อน เชิดเงินหนี
50 แรงงาน ถูก “เจ๊ออย” ตุ๋นพาทำงานออสเตรเลีย ก่อน เชิดเงินหนี ปล่อยลอยแพคาสนามบิน ด้านกระทรวงแรงงาน ยัน บริษัทไม่ได้จดทะเบียน
6 ม.ค. 2568 เวลา 10.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายณรงค์ชัย พนาจันทร์ อายุ 42 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว พร้อมผู้เสียหายประมาณเกือบ 50 ราย เป็นตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมด 250 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ภาณุภัค สืบปรุ รอง ผกก. (สอบสวน) กก.4 บก.ปคม. เพื่อแจ้งความเอาผิด น.ส.ออย หลังถูกหลอกโอนเงินอ้างจะพาไปทำงานประเทศออสเตรเลีย รวมมูลค่าความเสียหาย 12 ล้านบาท
นายณรงค์ชัย กล่าวว่า น.ส.ออย อ้างว่าทำงานอยู่ในสถานทูตออสเตรเลียที่ประเทศไทย อ้างว่ามีโควต้าสามารถพาไปทำงานที่ ออสเตรเลียได้ โดยงานที่จะพาไปทำนั้นจะเป็นงานเกษตร พนักงานโรงแรม และเด็กเสิร์ฟร้านอาหาร แต่ผู้ที่สนใจจะต้องยอมจ่ายเงินค่าดำเนินการ อยู่ที่ประมาณ 160,000 บาท ถึง 200,000 บาท เรียกเก็บครั้งแรก 60,000 บาท ส่วนที่เหลือจะถูกหักจากเงินเดือนหลังไปทำงานเดือนละ 10,000 บาทจนครบ ช่วงแรกที่มีการติดต่อ จะมึการทำเอกสารสัญญาจ้าง 5 ปี กับ 10 ปี เพื่อทำให้ดูน่าเชื่อถือ
“กระทั่งใกล้ถึงวันเดินทาง น.ส.อ้อย ก็นัดหมายให้ผู้เสียหายทั้งหมด 250 คน แต่พอถึงวันกำหนดเดินทางกลับอ้างว่า ติดขัดเรื่องเอกสาร พร้อมกับผัดผ่อนเลื่อนนัดเรื่อยมา ก่อนจะขาดหายการติดต่อไปในที่สุด ทำให้เชื่อว่าถูกหลอก จึงตัดสินใจรวมตัวกันมาเข้าร้องขอความเป็นธรรมตำรวจสอบสวนกลางในวันนี้”
ขณะที่ น.ส.น้อย หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายรายหนึ่ง ชื่อ นายนุ พักอยู่ใกล้กับบ้านของ น.ส.ออย หลังรู้ตัวว่าถูกหลอก ได้เดินทางไปที่บ้านพักของ น.ส.ออย เมื่อไปถึงก็ไม่พบเจอตัว ด้วยความสงสัยจึงเข้าไปในบ้านพักก่อนพบเอกสารพาสปอร์ตจำนวนหนึ่งถูกกองทิ้งไว้ในบ้านพัก จึงทำให้ทั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการจงใจหลอกลวงเงินจากพวกตนอย่างแน่นอน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายไว้ทั้งหมด เพื่อนำไปประมวลเรื่องราวควบคู่พยานหลักฐาน ก่อนส่งต่อให้กับผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
ต่อมาเวลา 11.20 น. นายสนธยา กาลาศรี ผู้อำนวยการกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้เดินทางมาเพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าว ก่อนเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า กรณีดังกล่าว ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใย จึงกำชับให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ในการทำงานต่างประเทศที่ถูกต้อง ควบคู่กับการที่จะเร่งดำเนินคดีกับผู้ที่สร้างปัญหาอย่างเด็ดขาด
โดยปี 2567 ที่ผ่านมา สามารถดำเนินคดีกับนายหน้าเถื่อนได้ทั้งหมด 452 คน มีคนไทยถูกหลอก 608 คน รวม 26 ประเทศ และในส่วนกรณีล่าสุดนี้ จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดดำเนินคดีกับตัวผู้ก่อเหตุ โดยจะทำงานร่วมกับตำรวจสวนกลาง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการตรวจสอบบริษัทของน.ส.ออย ว่า มีการจดทะเบียนถูกต้องแล้วหรือไม่ นายสนธยา ระบุว่า ตอนนี้ทราบว่าไม่มีการจดทะเบียนกับกรมการจัดหางานแต่อย่างใด หากตรวจสอบแล้วมีบุคคลใดที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันหลอกลวงคนไปทำงานต่างประเทศก็จะถูกดำเนินคดีทุกราย อีกทั้งปัญหาในการถูกหลอกลวงมีหลากหลายกลุ่มในช่วงที่ผ่านมา แต่จะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่อย่างไรต้องขอเวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริง