นายกฯอุ๊งอิ๊ง ชูไทยเด่น ITB Berlin 2025 ดันเมืองรองสู่สากล

09 มีนาคม 2568

นายกฯ เผย ITB Berlin 2025 เปิดโอกาสทองธุรกิจไทย ดันเมืองรองสู่ตลาดโลก ชี้ต้องพัฒนาสินค้าเกษตร สร้างจุดขายแข่งนานาชาติ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว หลังเสร็จสิ้นภารกิจเข้าร่วมงาน ITB Berlin 2025 ที่กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 3 - 8 มีนาคม 2568 ซึ่งเป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า งาน ITB Berlin เป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย ทั้งโรงแรม บริษัททัวร์ และธุรกิจท่องเที่ยว ได้พบปะและเจรจากับคู่ค้าต่างชาติ เพื่อขยายตลาดและสร้างโอกาสทางธุรกิจ ปีนี้ประเทศไทยมีการจัดบูธที่โดดเด่น ได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศในด้านความสวยงามและการนำเสนอที่มีประสิทธิภาพ

 

ในปีนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ให้ความสำคัญกับการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจไปยังเมืองรอง โดยเชิญชวนผู้ประกอบการโรงแรมและธุรกิจท่องเที่ยวจากจังหวัดต่างๆ เช่น น่าน ตรัง และอีกหลายจังหวัด ให้เข้าร่วมงาน นำเสนอแพ็คเกจท่องเที่ยวและสร้างเครือข่ายธุรกิจกับผู้ค้าจากต่างประเทศ

 

"หลายจังหวัดที่เข้าร่วมงานได้นำแพ็คเกจท่องเที่ยวของตัวเองไปขาย และได้พบปะกับนักธุรกิจจากทั่วโลก ผู้ประกอบการไทยหลายรายบอกว่า นี่เป็นโอกาสสำคัญในการขยายตลาด ทำให้โรงแรมขนาดเล็กและสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดของตนเป็นที่รู้จักมากขึ้น" นายกรัฐมนตรีกล่าว

 

นอกจากร่วมงาน นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธของประเทศอื่นๆ เพื่อนำแนวคิดมาปรับปรุงการนำเสนอประเทศไทยให้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น โดยชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยควรเน้นจุดขายที่แตกต่างจากคู่แข่ง และประชาสัมพันธ์เมืองรองที่มีศักยภาพให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รู้จักมากขึ้น

 

"งานนี้ทำให้เห็นว่า ไทยต้องพัฒนาแนวทางการนำเสนอการท่องเที่ยวให้แข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่แค่การขายสถานที่ท่องเที่ยวหลักอย่างกรุงเทพฯ เชียงใหม่ หรือภูเก็ต แต่ต้องชูจุดเด่นของเมืองรองที่มีศักยภาพ ซึ่งยังเป็นที่รู้จักน้อยในตลาดโลก"

 

 

นอกจากด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสนี้สำรวจตลาดสินค้าไทยในต่างประเทศ โดยพบว่าสินค้าไทยหลายประเภทได้รับความนิยมและมีราคาสูงในตลาดโลก แต่ยังมีช่องว่างที่ต้องพัฒนาเพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยเข้าถึงตลาดได้มากขึ้น

 

"เวลาไปเดินห้างต่างประเทศ เราเห็นว่าสินค้าท้องถิ่นของแต่ละประเทศสามารถแข่งขันได้อย่างดี และสินค้าของไทยที่ส่งออกก็ทำราคาได้สูงมาก แต่ปัญหาคือมีช่องว่างระหว่างเกษตรกรกับตลาดโลก เราต้องพัฒนาเรื่องการถนอมอาหาร และสร้างมาตรฐานให้สินค้าสามารถส่งออกได้มากขึ้น" นายกรัฐมนตรีกล่าว

 

โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น ข้าวและผลไม้ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทย จำเป็นต้องมีการพัฒนานวัตกรรมและมาตรฐานให้สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ เช่นเดียวกับสินค้าสด ที่ต้องมีเทคโนโลยีช่วยรักษาคุณภาพเพื่อขยายตลาดไปยังต่างประเทศ

 

"ไทยมีศักยภาพสูงมาก แต่ต้องสร้างจุดขายให้ชัดเจน ทำไมผู้บริโภคต้องเลือกสินค้าไทยท่ามกลางคู่แข่งจำนวนมาก เราต้องเพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะตัว และพัฒนาให้สินค้าของเราเป็นที่ต้องการในระดับสากล" นายกรัฐมนตรีสรุป

Thailand Web Stat