รัฐเร่ง One Map แก้ปัญหาที่ดินทับซ้อน ปักธงเสร็จภายในปี 2570
ประเสริฐ แจง รัฐบาลลุยปรับปรุงแผนที่ One Map เร่งแก้ปัญหาที่ดินรัฐ-เอกชนทับซ้อน ลดขั้นตอนราชการ คาดแล้วเสร็จในปี70 ปลดล็อกข้อพิพาท เพิ่มความชัดเจนสิทธิที่ดินประชาชน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตอบกระทู้ถามของ นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย เรื่องความคืบหน้าเรื่องโครงการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4,000(One Map) ว่ารัฐบาลเร่งรัดการจัดทำ One Map โดยให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อลดขั้นตอนต่างๆ ให้เร็วขึ้น และคาดหมายว่าจะทำเสร็จภายในปี 2570 เพื่อแก้ไขข้อพิพาทที่ดินทับซ้อน ที่ดินรัฐ-เอกชนได้ดีที่สุด
รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการเร่งจัดทำแผนที่ OneMap เพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยได้แบ่งการดำเนินการจัดทำแผนที่เป็นกลุ่มจังหวัดรวมได้ 7 กลุ่ม กลุ่มละประมาณ 11 จังหวัด โดย ครม. เห็นชอบไปแล้วประมาณ 4 กลุ่ม
กลุ่ม 1 ครม. เห็นชอบไปแล้ว เป็นกลุ่มภาคกลาง รวมกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
กลุ่ม 2 ครม.เห็นชอบเมื่อ พ.ย.ปี 65 มี 11 จังหวัดในเขตตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษก็อยู่ในกลุ่มนี้
กลุ่ม 3 ครม. เห็นชอบ ก.พ.66 มี 11 จังหวัดในภาคอีสานเกือบทั้งสิ้น
กลุ่ม 4 ครม.เห็นชอบ ธ.ค.67 จังหวัดในภาคอีสาน
กลุ่ม 5 อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินการปรับปรุงเส้นแนวเขตที่ดิน จะเป็นจังหวัดในภาคใต้
โดยคาดว่าน่าจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้กลางปี 2567 และ กลุ่ม 6 และกลุ่ม 7 นั้นจะเป็นกลุ่มจังหวัดภาคเหนือและใต้ที่เหลือทั้งหมด ซึ่งกระทรวงดีอีพยายามเร่งรัดให้ทำแผนที่สำรวจให้เสร็จสิ้นเร็วที่สุดภายในปี 2570
ซึ่งปัญหาหลักคือ เนื่องจากเรามีขั้นตอนราชการจำนวนมาก และเราต้องการแก้ปัญหาเหล่านี้ ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ สคทช. เห็นชอบแนวทางปฏิบัติลดขั้นตอนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานวันแมพ ให้ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติ ครม. ซึ่งสำนักงานนโยบายที่ดินแห่งชาติ ก็ส่งเรื่องแนวทางลดขั้นตอนและเพิ่มประสิทธิภาพแผนที่วันแมพแล้ว
ดังนั้นแล้ว หากเราสามารถเร่งการจัดทำแผนที่ One Map แล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาที่ดินได้อย่างดี ซึ่งจะสามารถช่วยให้พี่น้องประชาชนและหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ที่มีปัญหาข้อพิพาทเรื่องที่ดิน ประชาชนจะได้รับสิทธิสามารถแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อนได้ และจะเป็นการพิสูจน์ที่ดินของรัฐและเอกชนได้อย่างเป็นธรรม