posttoday

ศาลปกครองกลางสั่งห้ามขึ้นทะเบียนพุทธมณฑลเป็นที่ราชพัสดุ

19 มีนาคม 2568

“ศาลปกครองกลาง" พิพากษาห้ามกรมธนารักษ์นําที่ดิน "2,500 ไร่ ของพุทธมณฑล"ขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ (อ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม)

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 133/2565 ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้ฟ้องคดีต่อกรมธนารักษ์ กรณีพิพาทเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนที่ดินพุทธมณฑล เนื้อที่ 2,500 ไร่ เป็นที่ราชพัสดุ โดยศาลมีคำพิพากษาห้ามไม่ให้กรมธนารักษ์ นำที่ดินพุทธมณฑลตามฟ้องไปขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติบรรยายฟ้อง ระบุว่า พื้นที่พุทธมณฑลเป็นศาสนสมบัติกลางของพระพุทธศาสนา ตามมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้ดูแลรักษา แต่กรมธนารักษ์พยายามขึ้นทะเบียนพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562 ส่งผลให้เกิดข้อพิพาททางกฎหมาย

ขณะที่ฝ่ายกรมธนารักษ์ให้การต่อสู้คดีว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 7) เคยมีความเห็นว่าพุทธมณฑลเป็นที่ดินที่ใช้ในกิจการของรัฐด้านพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม และการดำเนินการสร้างพุทธมณฑลได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมาโดยตลอด จึงควรถือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน

ผลคำวินิจฉัยของศาลของศาลปกครองกลาง พิจารณาพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า พุทธมณฑลถูกจัดตั้งขึ้นตามเจตนารมณ์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ รัฐบาล และประชาชน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา โดยมีประชาชนร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อจัดซื้อที่ดิน และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับซื้อที่ดินบางส่วนถวายเป็นพุทธบูชา

นอกจากนี้ ที่ดินส่วนหนึ่งที่ยังขาดอยู่ได้ถูกเวนคืนโดยรัฐบาลเพื่อให้การก่อสร้างพุทธมณฑลสมบูรณ์ โดยมิได้มีเจตนาให้เป็นที่ราชพัสดุ

ดังนั้น ศาลจึงเห็นว่าที่ดินพุทธมณฑลเป็นศาสนสมบัติกลางของพระพุทธศาสนา ไม่เข้าข่ายเป็นที่ราชพัสดุตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562

ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่า การที่กรมธนารักษ์และสำนักงานธนารักษ์พื้นที่นครปฐมพยายามนำที่ดินพุทธมณฑลขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีคำสั่งห้ามมิให้กรมธนารักษ์ดำเนินการขึ้นทะเบียนที่ดินพุทธมณฑลเป็นที่ราชพัสดุโดยเด็ดขาด

ที่มา สำนักข่าวศาลปกครอง (คลิ๊กอ่านคำพิพากษา) 

Thailand Web Stat