สตง. เจอเอง! แผ่นดินไหวเขย่ากรุง อาคารสำนักงานใหม่ 2 พันล้านถล่ม

28 มีนาคม 2568

อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในย่านจตุจักร ถล่มทั้งหลัง คาดผลจากแรงแผ่นดินไหว ยังไม่มีรายงานบาดเจ็บ-เสียชีวิต

เหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูด จุดศูนย์กลางในประเทศเมียนมา เมื่อเวลา 13.20 น. ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างชัดเจน ประชาชนในอาคารสูงต่างแตกตื่นอพยพลงมาด้านล่าง

 

ล่าสุดมีรายงานข่าวระบุว่า อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในย่านจตุจักร ได้เกิดการถล่มลงมาทั้งหลัง คาดว่าเป็นผลมาจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว

 

อาคารดังกล่าวมีมูลค่าโครงการก่อสร้างสูงถึง 2,136 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า สตง. ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐ กลับต้องมาประสบกับเหตุการณ์อาคารก่อสร้างของตนเองถล่มลงมาเสียเอง

 

ภาพมุมสูงความคืบหน้าก่อสร้าง ตึก สตง. / เครดิต PN syncronize จำกัด ภาพมุมสูงความคืบหน้าก่อสร้าง ตึก สตง. / เครดิต PN syncronize จำกัด

อาคาร สตง. ภาพเมื่อ เดือนกรกฎาคม ปี  2567 อาคาร สตง. ภาพเมื่อ เดือนกรกฎาคม ปี  2567

 

อัปเดตอาคารที่ทำการ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ (สตง) สูง 30 ชั้น มูลค่างานก่อสร้าง 2,136 ล้านบาท 
 
สร้างโครงสร้างถึงจุดสูงสุดแล้ว  ทุบเคลียร์ร้านเก่าๆ ริมถนนเปิ ดหน้าที่ดินสุดกว้างอลังการ   11 ไร่ ใจกลางย่านการค้าตลาดนัดจตุจักร ใกล้ MRT กำแพงเพชร ติดสถานีกลางบางซื่อ ตรงข้าม JJ MALL ติดผนังกระจกแล้ว

 

ล่าสุดพบมีผู้เสียชีวิต 3 ราย และยังมีผู้ติดอยู่ภายในอาคารประมาณ 81 คน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมืออาฟเตอร์ช็อกที่อาจเกิดขึ้น   

 

เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์สำคัญถึงผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคาร แม้กระทั่งอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และยังเป็นประเด็นที่น่าติดตามถึงความโปร่งใสและมาตรฐานการก่อสร้างของอาคารสำนักงาน สตง. แห่งใหม่นี้ต่อไป

 

ที่มาที่ไปตึกใหม่ สตง.

โครงการก่อสร้างอาคารแห่งนี้ได้รับการอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าควบคุมงานก่อสร้างพร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบโดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 จากวงเงินเดิม 76,800,000 บาท เป็น 84,371,916 บาท

 

สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้อนุมัติขยายระยะเวลาก่อสร้างอาคารออกไปอีก 155 วัน ส่งผลให้ระยะเวลาก่อสร้างขยายจาก 1,080 วัน (สิ้นสุดเดิมวันที่ 31 ธันวาคม 2566) เป็น 1,235 วัน ซึ่งทำให้สัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างต้องมีค่าจ้างเพิ่มเติมอีก 148 วัน โดยผู้ให้บริการควบคุมงานเริ่มดำเนินงานหลังจากวันส่งมอบพื้นที่ 7 วัน ค่าจ้างควบคุมงานที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 9,718,716 บาท ดังนั้น เมื่อรวมกับวงเงินในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างเดิมที่ 74,653,200 บาท จึงมีวงเงินรวมทั้งสิ้น 84,371,916 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเนื่องจากการขยายระยะเวลาการดำเนินงาน อ้างอิงตามข้อ 7 (3) ของระเบียบว่าด้วยการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2562


รายงานข่าวเปิดเผยว่า สตง. ได้ลงนามก่อหนี้ผูกพันผ่านสัญญาหลักสองฉบับ ได้แก่

1. สัญญาเลขที่ 021/2564 ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ว่าจ้างกิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด) ให้ดำเนินการก่อสร้างอาคารพร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ ด้วยวงเงิน 2,136 ล้านบาท

 

2. สัญญาเลขที่ 024/2564 ลงวันที่ 14 มกราคม 2564 ว่าจ้างกิจการร่วมค้า PKW (บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด, บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จำกัด) ให้ดำเนินการควบคุมงานก่อสร้าง ด้วยวงเงิน 74,653,000 บาท

 

โดยการดำเนินโครงการนี้มีการขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันออกไปถึงปีงบประมาณ 2569 ซึ่งเกิดจากเหตุผลสำคัญสองประการ ได้แก่

1. การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเดิมในพื้นที่, การหยุดงานก่อสร้างตามประกาศของทางราชการเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และพิธีวางศิลาฤกษ์ รวมเป็นระยะเวลา 58 วัน

2. การแก้ไขแบบก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับ Load Factor, Core Wall และการสัญจรของรถบรรทุกในชั้นใต้ดิน รวมเป็นระยะเวลา 97 วัน

 

จากเหตุข้างต้น ส่งผลให้ค่าจ้างควบคุมงานต้องจ่ายเพิ่มขึ้นอีก 148 วัน (ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม - 3 มิถุนายน 2567) โดยมีอัตราค่าจ้างวันละ 65,667 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 4,718,716 บาท

 

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ "ACT" และ สตง. โดยมีการลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตผ่านโครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) กับกิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี การดำเนินโครงการนี้ได้มีการเปิดเผยข้อมูลในทุกขั้นตอน และเมื่อเปรียบเทียบกับราคากลางของงานก่อสร้างที่กำหนดไว้ที่ 2,522.15 ล้านบาท พบว่าโครงการนี้ใช้เงินต่ำกว่าราคากลางถึง 386.15 ล้านบาท

Thailand Web Stat