แถลงตึก สตง.ถล่ม ยืนยันอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตแล้ว 33 ราย
ผบก.พฐก. แถลงคืบหน้าการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิต เหตุตึกสตง.ถล่ม ยืนยันอัตลักษณ์แล้ว 33 ราย ไทย 22 ราย พม่า 10 ราย และกัมพูชา 1 ราย พร้อมส่งร่างคืนครอบครัว
ที่ศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต. วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) และโฆษกสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ร่วมแถลงข่าว ถึงความคืบหน้าการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เพื่อยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิตและส่งคืนศพให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนา
พล.ต.ต.วิรุฬห์ ระบุว่า ขณะนี้มีศพและชิ้นส่วนศพเข้าสู่ระบบแล้ว 41 ราย และชิ้นส่วนอีก 96 ชิ้น โดยมีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากญาติผู้สูญหายรวม 97 รายเพื่อเปรียบเทียบ โดยใช้ข้อมูลลายนิ้วมือ ทันตกรรม ดีเอ็นเอ และลักษณะทางกายภาพ
ผลการพิสูจน์ยืนยันตัวตนได้แล้ว 33 ราย แบ่งเป็นคนไทย 22 ราย ชาวเมียนมา 10 ราย และชาวกัมพูชา 1 ราย ซึ่งญาติบางส่วนได้รับศพกลับไปแล้ว ขณะที่บางรายยังรอการประกอบร่างให้ครบถ้วนก่อนส่งมอบ
พล.ต.ต.วาที เปิดเผยว่า ในช่วงแรกสามารถพิสูจน์ศพและปล่อยให้ญาติรับได้วันต่อวัน แต่ขณะนี้ศพบางส่วนมีการเปลี่ยนสภาพ ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและประกอบชิ้นส่วนก่อนส่งคืน ทั้งนี้บางชิ้นส่วนต้องใช้การตรวจดีเอ็นเอจากกระดูก ซึ่งอาจใช้เวลาเพิ่มเติมอีก 1-2 วัน
ในส่วนของแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะชาวเมียนมาที่ญาติไม่สามารถเดินทางมาไทยได้ ทาง พฐก. จะประสานสถานทูตเมียนมาเพื่อเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากญาติในประเทศต้นทาง นำมาเปรียบเทียบยืนยันตัวบุคคลในขั้นต่อไป
สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อสนับสนุนกระบวนการสืบสวนสอบสวน และให้ญาติผู้เสียชีวิตสามารถจัดพิธีกรรมทางศาสนาได้โดยไม่ล่าช้า