posttoday

ตำรวจจราจรกับภารกิจนำส่งหัวใจ มอบโอกาสชีวิตใหม่ใน 30 นาที

19 เมษายน 2568

ภารกิจเร่งด่วนแข่งกับเวลา! ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริลำเลียงหัวใจจากต่างจังหวัดสู่โรงพยาบาลกลางเมืองได้สำเร็จ

วันที่ 19 เมษายน 2568 – พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร ได้กล่าวชื่นชม พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร และทีมตำรวจโครงการพระราชดำริ หลังปฏิบัติภารกิจสุดท้าทาย เมื่อค่ำวันที่ 18 เมษายน เวลา 20.50 น. กับการนำส่ง “หัวใจดวงที่ 123 และ 124” จากจังหวัดอุดรธานีและสงขลา มายังกรุงเทพมหานคร ด้วยความเร่งด่วนและแม่นยำ เพื่อมอบโอกาสครั้งใหม่ให้กับผู้ป่วยที่กำลังรอคอยการปลูกถ่ายหัวใจ

 

ภารกิจนี้เป็นการแข่งกับเวลาอย่างแท้จริง ด้วยข้อจำกัดทั้งด้านระยะทาง สภาพอากาศ และการจราจรในเมืองหลวง แต่ด้วยความร่วมมือของหลายภาคส่วน ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริสามารถนำส่งหัวใจทั้งสองดวงได้สำเร็จทันเวลาสำหรับการผ่าตัดปลูกถ่าย

 

พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา และหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์จราจร กล่าวเพิ่มเติมว่า ภารกิจลำเลียงอวัยวะเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย ยังคงเป็นภารกิจหลักที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริให้ความสำคัญเสมอมา พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี, สภ.หาดใหญ่ รวมถึงนักบินและบุคลากรทุกคนที่มีส่วนร่วมในการประสานงานจนภารกิจลุล่วงด้วยดี

 

หัวใจดวงที่ 123 ถูกส่งจากจังหวัดอุดรธานี โดยได้รับความช่วยเหลือจากคุณอรวิภา นกนทีสวัสดิ์ นางสาวไทยปี 2552 ซึ่งอาสานำหัวใจขึ้นเครื่องบินส่วนตัวท่ามกลางสภาพอากาศแปรปรวน ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงถึงฝูงบิน 604 กองบิน 6 ดอนเมือง เมื่อหัวใจเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่มีเวลาเพียง 30 นาทีในการนำส่งถึงโรงพยาบาลศิริราช ท่ามกลางการจราจรหนาแน่น ทีมจราจรโครงการพระราชดำริจึงเร่งประสานงาน เปิดเส้นทางเร่งด่วนทันที

 

ในเวลาใกล้เคียงกัน หัวใจดวงที่ 124 ก็ถูกลำเลียงจากโรงพยาบาลหาดใหญ่มายังกรุงเทพฯ โดยใช้เครื่องบินส่วนตัวเช่นกัน ลงจอดที่อาคาร MJets สนามบินดอนเมือง ห่างจากหัวใจดวงแรกเพียง 15 นาที และต้องนำส่งต่อไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

 

ท่ามกลางความเร่งด่วนและข้อจำกัดเรื่องเวลา ทีมตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริได้วางแผนแบ่งกำลังเป็น 2 ขบวน นำโดยหน่วยจักรยานยนต์เคลื่อนที่เร็ว และได้รับการสนับสนุนจากตำรวจในพื้นที่ ช่วยให้หัวใจดวงที่ 123 ถึงศิริราชภายใน 23 นาที เหลือเวลาอีกเพียง 7 นาทีให้ทีมแพทย์นำหัวใจเข้าสู่ห้องผ่าตัด ขณะที่หัวใจดวงที่ 124 ก็ถึงโรงพยาบาลจุฬาฯ ภายใน 11 นาทีอย่างปลอดภัย

 

พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวทิ้งท้ายว่า “ภารกิจนี้สะท้อนถึงหัวใจที่กล้าหาญของเจ้าหน้าที่ทุกนาย ที่พร้อมเสี่ยงภัยเพื่อเปิดทางให้ลมหายใจของผู้คนเดินหน้าต่อไป ขอขอบคุณผู้บริจาคอวัยวะทุกท่านที่เสียสละอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อให้เพื่อนมนุษย์ได้มีโอกาสใหม่ในชีวิต”

 

หัวใจทั้งสองดวง ไม่เพียงเป็นสิ่งแทนชีวิตใหม่ของผู้ป่วย แต่ยังสะท้อนถึงพลังแห่งความร่วมมือ เสียสละ และหัวใจอันยิ่งใหญ่ของทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในภารกิจครั้งนี้