"บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล vs แมนซิตี้ แพ้-ชนะ ชี้ชะตาแชมป์ ?

โฟกัสไปที่เกมใหญ่อภิมาหายักษ์คืนนี้ที่ แอนฟิลด์ ของทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล จะเปิดบ้านพบกับ แมนซิตี้ เวลา 22.45 น.

อย่างที่ทราบกันดีว่าก่อนเกมทั้งคูาสถานะตกเป็นผู้ตามแล้ว เมื่อลิเวอร์พูลอยู่ที่ 2 มี 63 คะแนน ส่วนแมนซิตี้อยู่ที่ 3 มี 62 คะแนน หากใครชนะจะขึ้นเป็นทีมตำของตารางทันที แต่หากใครแพ้ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอบนำเป็นจ่าฝูงต่อ

เปิดอัตราต่อรอง แมนซิตี้ เป็นต่อเล็กน้อย

ร้ายพนันแบบถูกกฎหมายของอังกฤษทุกสำนักเปิดน้ำหนักมาแล้ว ให้ทีมเยือนแชมป์เก่าแมนซิตี้ ได้เปรียบ 1 มุม เพราะวัดจากสภาพทีมที่สมบูรณ์กว่า ได้พักมากกว่า ลิเวอร์พูลที่เพิ่งเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐ เช็ก ในฟุตบอลยูฟา ยูโรปาลีก 

ทำให้แมนซิตี้บุกมาเยือนในสถานะที่อัตราต่อรองได้เปรียบเล็กน้อย ส่วนเปอร์เซ็นต์ผู้แพ้ชนะในเกมนี้คำนวนโดยซุเปอร์ คอมพิวเตอร์ออกมาแล้ว

ลิเวอร์พูล ชนะ     33.1%

เสมอ                  28.4 %

แมนฯซิตี้ ชนะ     38.5 %

 

วิวาทะก่อนเกม ฟังบอสใหญ่เปิดใจ

ศึกครั้งนี้จะเป็นมหาศึกสุดท้ายที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะได้วัดฝีมือกันในลีก เพราะอย่างที่ทราบดีว่า "คล็อปป์" จะอำลาลิเวอร์พูลหลังจบฤดูกาลนี้ 

แม้ก่อนเกมบรรดานักเตะทั้งสองทีมจะสาดน้ำลายใส่กัน ว่าทีมของตัวเองได้แชมป์แบบมีความหมายและดีกว่า

เริ่มที่เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็กขวาหงส์แดงบอกว่าการได้แชมป์ลีกของลิเวอร์พูล (สมัยเดียวในยุคคล็อปป์) มีคุณค่าและความหมายมากกว่าแมนฯซิตี้ที่ได้แชมป์มากมายในยุคเป๊ป เพราะใช้เงินซื้อความสำเร็จ

ด้าน เออร์ลิง ฮาแลนด์ ก็ออกมาสวนเทรนท์ว่า แมนซิตี้ อาจจะแชมป์แบบไร้ความหมายก็จริง แต่ลิเวอร์พูลคงไม่เคยรู้สึกถึงการได้ ทริปเปิลแชมป์แบบที่แมนฯซิตี้ทำได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว 

 แต่คนที่มาเบรกอารมณ์เดือดของนักเตะได้คือนายใหญ่ของทั้่งลิเวอร์พูล และ แมนซิตี้

เริ่มที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พูดถึงประเด็นดังกล่าวว่า "พวกเขาปกป้องสโมสร ไม่ใช่การตอบโต้ แต่มันเป็นสิ่งที่พวกเขาทำมาหลายปีในสนามทุกๆ สามวัน นั่นคือวิธีที่ดีที่สุด ผมสามารถตอบคำถามของเขา (เทรนต์) ได้นะ นี่คือสิ่งเป็นสิ่งที่มันเป็น ผมภูมิใจมากๆ กับสิ่งที่เราทำได้"

"เราจะพยายามชนะเกมนี้ให้ได้ และผมขออวยพรให้ เทรนต์ ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ และกลับมาลงสนามโดยเร็วที่สุดนะ"

พร้อมกันนี้เป๊ป ยังยกให้อาร์เซนอลเป็นทีมที่น่ากลัวกว่าลิเวอร์พูลเพราะอันตาายและเหนือกว่า

 

ด้านเจอร์เก้น คล็อปป์ ออกมาปกป้องเทรนท์ ลูกทีมของเขาว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ไม่ผิดกับสิ่งที่พูดออกไป เพราะ "หงส์แดง" มีความพิเศษสำหรับเขา ซึ่งถ้านักเตะรู้สึกแบบนั้น ทำไมต้องถูกห้ามไม่ให้พูดด้วยล่ะ

"เทรนต์ ให้ความเคารพพวกเขา แต่เขาเกิดในเมืองลิเวอร์พูล เขายืนอยู่บนถังขยะ (ด้านนอกสนามซ้อมเมลวู้ดเพื่อดูนักเตะฝึกซ้อมสมัยที่เป็นเด็ก) สิ่งที่คุณคิดเกี่ยวกับสถานการณ์นี้นะเหรอ ? หนึ่งในสโลแกนของเราซึ่งผมชอบมากๆ "This Means More"  (สิ่งนี้มีความหมายมากกว่านั้น) มันมีความหมายมากๆ สำหรับเรา สโมสรแห่งนี้มีความพิเศษสำหรับเรา ดังนั้นถ้าเรารู้สึกแบบนั้น แล้วทำไมถึงไม่อนุญาตให้พูดล่ะ ?" คล็อปป์กล่าว

"ผมไม่ได้สนใจ (ความเห็นจากภายนอก) มันก็แค่เขารู้สึกยังไง  เรารู้สึกยังไง และผมไม่ได้มีปัญหากับเรื่องนั้น ผมก็แค่อยากบอกเท่านั้น ผมมั่นใจว่าเขาแสดงให้เห็นว่าเขาให้ความเคารพเช่นกัน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากมายในวงการฟุตบอลอังกฤษ และบางทีในยุโรปด้วย พวกเขามีสถิติที่น่าอิจฉามากๆ ผมมั่นใจว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีความหมายมากๆ สำหรับผู้คนที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา"  

นอกจากนี้ คล็อปป์ ยังกล่าวยกย่อง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวสแปนิช หลังประสบความสำเร็จมากมายมหาศาล "เขาเป็นผู้จัดการทีมที่เก่งที่สุดในโลก แมนฯ ซิตี้ มีนักเตะที่น่าเหลือเชื่อมากๆ บางทีพวกเขามีหน้าเป้าที่เก่งที่สุด (เออร์ลิง ฮาลันด์) แนวทางของ กวาร์ดิโอล่า มีอิทธิพลกับวงการฟุตบอล"

เปิดสถิติคล็อปป์ vs เป๊ป 

คล็อปป์ และ เป๊ป ดวลกันมาทั้งหมด 25 หนตลอดอาชีพการเป็นกุนซือ และเป็นโค้ชชาวเยอรมัน (คล็อปป) ที่ทำได้เหนือกว่า โดยชนะได้ 11 ครั้ง แพ้ 9 ครั้ง และเสมอกันไป 5 ครั้ง 

คิดเป็นเปอร์เซ็นต์พาทีมชนะนั้น คล็อปป์ อยู่ที่ 44% ส่วน เป็ป อยู่ที่ 36% 

ส่วนจำนวนประตูที่ทำได้คล็อปป์ เหนือกว่าเล็กน้อย ยิงได้ 46 ประตู ส่วนทีมของกุนซือสแปนิชยิงได้ 45 ประตู

ความพร้อมลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล เจอปัญหาเดิม ๆ คือนักเตะบาดเจ็บเต็มทีมไปหมด รายล่าสุดที่เกริ่นไปคือ “อิบราฮิม่า โกนาเต้” ส่วนตัวที่ฟิตและพร้อมลงแน่ๆคือการกลับมาของโมฮาเหม็ดซาลาห์ และดาร์วิน นูนเญซที่กำลังมั่นใจ รวมถึงโดมินิก โซบอสซไล ที่ฟิตพร้อมในเกมนี้แล้ว 

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาด : ควีวิน เคลเลเฮอร์ (ผู้รักษาประตู) , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน , เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ , อิบราฮิม่า โกนาเต้ , คอนอร์ แบร็ดลี่ย์ , โดมินิก โซบอสซไล , วาตารุ เอ็นโด , อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ , หลุยส์ ดิอาซ , โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ , ดาร์วิน นูนเญซ

ความพร้อมแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ส่วนทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขุมกำลังพร้อมสมบูรณ์ หมดสิทธิ์ใช้งานแจ็ค กรีลิช เพียงแค่รายเดียวที่เจ็บ ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ , แบร์นาร์โด้ ซิลวา , จอห์น สโตนส์ และนาธาน อาเก้ ที่พัก ในเกมยุโรปกลางสัปดาห์พร้อมลงในเกมนี้ ทีเด็ดคือแดนหน้า เออร์ลิง ฮาแลนด์ กระหายลงสนามล่าตาข่าย  

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาด : เอแดร์ซอน (ผู้รักษาประตู) , นาธาน อาเก้ , รูเบน ดิอาส , มานูเอล อคานจี , ฟิล โฟเด้น , โรดรี้ , จอห์น สโตนส์ , แบร์นาร์โด้ ซิลวา , เควิน เดอ บรอยน์ , ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ , เออร์ลิง ฮาแลนด์

สถิติพบกัน 5 ครั้งหลังสุด

25 พฤศจิกายน 2023     : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
1 เมษายน 2023         : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 4-1 (พรีเมียร์ลีก)
23 ธันวาคม 2022     : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 (คาราบาว คัพ)
16 ตุลาคม 2022         : ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
30 กรกฎาคม 2022     : ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 (คอมมิวนิตี้ ชิลด์)

โปรแกรมถ่ายทอดสด ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 

ลิเวอร์พูล VS แมนเชสเตอร์ ซิตี้

วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2567 เวลา 22.45 น. 

สนาม : แอนฟิลด์

ถ่ายทอดสด : True Premier Football 1 , True Premier Football 2